จากปัญหาหุ้นกู้เอกชน ที่มีกำหนดใกล้ครบชำระจำนวนมากในปี 2567 บางบริษัทอาจมีปัญหาขาดสภาพคล่อง ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ โดยได้มอบหมายให้ ปลัดกระทรวงการคลัง ประสานกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการผิดชำระหนี้เกิดขึ้น
"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวม "หุ้นกู้กลุ่มมีปัญหา" ในรอบ 1 ปี จากข้อมูล สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (Thai BMA) อัพเดท ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2566 พบว่ากลุ่มหุ้นกู้ดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 24 บริษัท มูลหนี้รวม 106,838 ล้านบาท คิดเป็น 2.28% ของยอดคงค้างหุ้นกู้เอกชนปัจจุบันที่ 4.68 ล้านล้านบาท โดยมูลหนี้หุ้นกู้กลุ่มมีปัญหาเพิ่มขึ้น 17,617 ล้านบาท หรือเพิ่ม 19.75 % เทียบจาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 89,221 ล้านบาท จากจำนวน 19 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 1.95% ของยอดคงค้างหุ้นกู้เอกชน 4.57 ล้านล้านบาท
หุ้นกู้กลุ่มมีปัญหา 106,838 ล้านบาท แยกเป็น 1.กลุ่มเข้าแผนฟื้นฟูกิจการมี 3 บริษัท มูลหนี้รวม 73,057 ล้านบาท , กลุ่มปรับโครงสร้างหนี้มี 14 บริษัท มูลหนี้รวม 11,485.89 ล้านบาท และกลุ่มผิดนัดชำระหนี้ มี 7 บริษัท มูลหนี้รวม 22,295.13 ล้านบาท รายละเอียดังนี้
1.กลุ่มเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ มี 3 บริษัท มูลค่ารวม 73,057 ล้านบาท ได้แก่
2.กลุ่มปรับโครงสร้างหนี้ มี 14 บริษัท มูลค่ารวม 11,485.89 ล้านบาท ได้แก่
1. บมจ.เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล(JCK) มูลค่ารวม 3,400.42 ล้านบาท มี 6 ชุด
2.บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์(CGD) มูลค่ารวม 2,291.53 ล้านบาท มี 4 ชุด
3. บจก.ภูเก็ต แฟนตาเซีย ( PHUKET) มูลค่า 1,768.70 ล้านบาท มี 6 ชุด
4.บจก.ไอริส กรุ๊ป (IRIS) มูลค่ารวม 879 ล้านบาท มี 4 ชุด
5.บมจ.ช ทวี (CHO) มูลค่ารวม 745.69 ล้านบาท มี 4 ชุด
6.บจก.สยามนุวัตร (SNW) มูลค่ารวม 520 ล้านบาท มี 3 ชุด
7.บจก.เจซี เควิน ดีเวลลอปเม้นท์ (JCKD ) มูลค่ารวม 405 ล้านบาท มี 1 ชุด
8 บจก.พี พี ฮอลิเดย์(PPH)มูลค่า 392 ล้านบาท มี 1 ชุด
9.บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) มูลค่ารวม 351.76 ล้านบาท มี 3 ชุด
10.บจก.วอเตอร์เกท โฮเต็ล มูลค่ารวม 300 ล้านบาท มี 1 ชุด
11.บจก.ซิซซา กรุ๊ป (CISSA) มูลค่ารวม 217.80 ล้านบาท มี 1 ชุด
12.บจก.ไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน มูลค่ารวม 100 ล้านบาท มี 1 ชุด
13.บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) มูลค่ารวม 80 ล้านบาท มี 1 ชุด
14.บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE ) มูลค่า 33.99 ล้านบาท มี 1 ชุด
3.หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ (Default Payment ) มี 7 บริษัท มูลค่ารวม 22,295.13 ล้านบาท ได้แก่
1.หุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น(STARK) มี 5 ชุด มูลค่ารวม 9,198.40 ล้านบาท
2.หุ้นกู้ บมจ.เจเคเอ็นโกลบอล กรุ๊ป (JKN )มี 7 ชุด มูลค่ารวม 3,212.15 ล้านบาท
3.หุ้นกู้ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) มี 1 ชุด มูลค่ารวม 3,000.00 ล้านบาท
4.หุ้นกู้ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) มี 7 ชุด มูลค่ารวม 2,334.20 ล้านบาท
5.หุ้นกู้ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) มี 7 ชุด มูลค่ารวม 2,575.38 ล้านบาท
6.หุ้นกู้ บจก.เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ (DR) มี 2 ชุด มูลค่ารวม 1,210.00 ล้านบาท
7.หุ้นกู้ บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (APEX) มี 1 ชุด มูลค่าหนี้รวม 765.00 ล้านบาท