เปิดหุ้นกู้มีปัญหา 24 บริษัทรวมกว่า 1.06 แสนล้าน "ผิดนัดชำระหนี้"พุ่ง

09 ธ.ค. 2566 | 05:19 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2566 | 10:13 น.

เปิดหุ้นกู้มีปัญหา 3 กลุ่มใหญ่ "ฟื้นฟูกิจการ-ปรับโครงสร้างหนี้-ผิดนัดชำระ" มูลหนี้รวมกว่า 1.06 แสนล้านบาท 24 บริษัท โดยเฉพาะ"กลุ่มผิดนัดชำระหนี้ (Default Payment ) 7 บริษัท พุ่ง 2.2 หมื่นล้านบาท

จากปัญหาหุ้นกู้เอกชน ที่มีกำหนดใกล้ครบชำระจำนวนมากในปี 2567 บางบริษัทอาจมีปัญหาขาดสภาพคล่อง ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ โดยได้มอบหมายให้  ปลัดกระทรวงการคลัง ประสานกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการผิดชำระหนี้เกิดขึ้น

 

"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวม "หุ้นกู้กลุ่มมีปัญหา" ในรอบ 1 ปี จากข้อมูล สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (Thai BMA) อัพเดท ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2566 พบว่ากลุ่มหุ้นกู้ดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 24 บริษัท มูลหนี้รวม 106,838 ล้านบาท คิดเป็น 2.28%  ของยอดคงค้างหุ้นกู้เอกชนปัจจุบันที่  4.68 ล้านล้านบาท โดยมูลหนี้หุ้นกู้กลุ่มมีปัญหาเพิ่มขึ้น 17,617 ล้านบาท หรือเพิ่ม 19.75 % เทียบจาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น  89,221 ล้านบาท จากจำนวน 19 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน 1.95% ของยอดคงค้างหุ้นกู้เอกชน 4.57 ล้านล้านบาท

หุ้นกู้กลุ่มมีปัญหา 106,838 ล้านบาท แยกเป็น 1.กลุ่มเข้าแผนฟื้นฟูกิจการมี 3 บริษัท มูลหนี้รวม 73,057 ล้านบาท , กลุ่มปรับโครงสร้างหนี้มี 14 บริษัท มูลหนี้รวม 11,485.89 ล้านบาท และกลุ่มผิดนัดชำระหนี้ มี 7 บริษัท มูลหนี้รวม 22,295.13 ล้านบาท รายละเอียดังนี้

 

เปิดหุ้นกู้มีปัญหา 24 บริษัทรวมกว่า  1.06 แสนล้าน \"ผิดนัดชำระหนี้\"พุ่ง

 

1.กลุ่มเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ มี 3 บริษัท มูลค่ารวม 73,057 ล้านบาท ได้แก่

  • บมจ.การบินไทย (THAI) มูลค่า 71,608 ล้านบาท
  • บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) ชุด PACE202A" มูลค่า 1,219 ล้านบาท
  • บมจ.ริช เอเชีย สตีล (RICH ) ชุด "RICH17OA"มูลค่า 230 ล้านบาท 

 

2.กลุ่มปรับโครงสร้างหนี้ มี 14 บริษัท มูลค่ารวม 11,485.89 ล้านบาท  ได้แก่

1. บมจ.เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล(JCK) มูลค่ารวม 3,400.42 ล้านบาท มี 6 ชุด

  • JCK209A มูลค่า 279.76 ล้านบาท 
  • JCK212A มูลค่า 462.44 ล้านบาท 
  • JCK213A มูลค่า 966.40 ล้านบาท
  • JCK217A มูลค่า 529.72 ล้านบาท
  • JCK221A มูลค่า 811.10 ล้านบาท
  • JCK 228A มูลค่า 351.00 ล้านบาท

2.บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์(CGD) มูลค่ารวม 2,291.53 ล้านบาท มี 4 ชุด

  • CGD213A มูลค่า 1,267.00 ล้านบาท
  • CGD206A  มูลค่า 555.74 ล้านบาท
  • CGD219A  มูลค่า 163.03 ล้านบาท
  • CGD20OA  มูลค่า 305.76 ล้านบาท

3. บจก.ภูเก็ต แฟนตาเซีย ( PHUKET) มูลค่า 1,768.70 ล้านบาท มี 6 ชุด

  • PHUKET207A มูลค่า 491.00 ล้านบาท
  • PHUKET208A มูลค่า 190.00 ล้านบาท
  • PHUKET206A มูลค่า 166.00 ล้านบาท
  • PHUKET20DA มูลค่า 595.30 ล้านบาท
  • PHUKET207B มูลค่า 200.00 ล้านบาท
  • PHUKET216A มูลค่า 126.40 ล้านบาท 

4.บจก.ไอริส กรุ๊ป (IRIS) มูลค่ารวม 879 ล้านบาท มี 4 ชุด

  • IRIS20OA มูลค่า 225.00 ล้านบาท
  • IRIS20DA มูลค่า 300.00 ล้านบาท
  • IRIS216A มูลค่า 192.00 ล้านบาท
  • IRIS219A มูลค่า 162.00 ล้านบาท    

5.บมจ.ช ทวี (CHO) มูลค่ารวม 745.69 ล้านบาท มี 4 ชุด  

  • CHO212A มูลค่า 408.98 ล้านบาท 
  • CHO21OA มูลค่า 195.00 ล้านบาท 
  • CHO229A มูลค่า 60.35  ล้านบาท 
  • CHO228A มูลค่า 81.36 ล้านบาท  

6.บจก.สยามนุวัตร (SNW) มูลค่ารวม 520 ล้านบาท มี 3 ชุด 

  • SNW224A มูลค่า 160 ล้านบาท
  • SNW231A มูลค่า  200 ล้านบาท
  • SNW233A มูลค่า 160 ล้านบาท 

7.บจก.เจซี เควิน ดีเวลลอปเม้นท์ (JCKD ) มูลค่ารวม 405 ล้านบาท มี 1 ชุด 

  • JCKD206A มูลค่า 405.00 ล้านบาท

8 บจก.พี พี ฮอลิเดย์(PPH)มูลค่า 392 ล้านบาท มี 1 ชุด

  • PPH206A มูลค่า 392.00 ล้านบาท 

9.บมจ.จี แคปปิตอล (GCAP) มูลค่ารวม 351.76 ล้านบาท มี 3 ชุด 

  • GCAP218A มูลค่า 63.08 ล้านบาท
  • GCAP21DA มูลค่า 127.68 ล้านบาท
  • GCAP233A มูลค่า 161.00 ล้านบาท

 

10.บจก.วอเตอร์เกท โฮเต็ล มูลค่ารวม 300 ล้านบาท มี 1 ชุด

  •  WGH216A มูลค่ารวม 300 ล้านบาท 

11.บจก.ซิซซา กรุ๊ป (CISSA) มูลค่ารวม 217.80 ล้านบาท มี 1 ชุด

  • CISSA221A มูลค่า 217.80 ล้านบาท

12.บจก.ไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน มูลค่ารวม 100 ล้านบาท มี 1 ชุด

  • TBTZ225A มูลค่า 100 ล้านบาท

13.บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) มูลค่ารวม 80 ล้านบาท มี 1 ชุด 

  • CMO23NA มูลค่า 80 ล้านบาท

14.บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE ) มูลค่า 33.99 ล้านบาท มี 1 ชุด

  • TLUXE205A มูลค่า 33.99 ล้านบาท


3.หุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้ (Default Payment ) มี 7 บริษัท มูลค่ารวม 22,295.13 ล้านบาท ได้แก่    

1.หุ้นกู้ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น(STARK) มี 5 ชุด มูลค่ารวม 9,198.40 ล้านบาท

  • STARK239A มูลค่า 1,291.50  ล้านบาท
  • STARK242A มูลค่า 3,934.30  ล้านบาท
  • STARK245A  มูลค่า 1,701.10  ล้านบาท
  • STARK249A มูลค่า 949.50  ล้านบาท
  • STARK255A มูลค่า 1,322.00 ล้านบาท

2.หุ้นกู้ บมจ.เจเคเอ็นโกลบอล กรุ๊ป (JKN )มี 7 ชุด มูลค่ารวม 3,212.15 ล้านบาท

  • JKN239A  มูลค่า 451.95 ล้านบาท
  • JKN243A  มูลค่า 300.00 ล้านบาท
  • JKN246A  มูลค่า  578.60 ล้านบาท
  • JKN240A  มูลค่า 400.00 ล้านบาท
  • JKN24NA  มูลค่า 800.00 ล้านบาท
  • JKN252A   มูลค่า 525.00 ล้านบาท
  • JKN255A   มูลค่า 156.60 ล้านบาท

3.หุ้นกู้ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) มี 1 ชุด มูลค่ารวม 3,000.00 ล้านบาท

  • IFEC17NA มูลค่า 3,000 ล้านบาท

4.หุ้นกู้ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) มี 7 ชุด มูลค่ารวม 2,334.20 ล้านบาท

  • ALL252A มูลค่า 251.60 ล้านบาท
  • ALL232A มูลค่า 111.90  ล้านบาท
  • ALL235A มูลค่า  631.90 ล้านบาท
  • ALL22OA มูลค่า  80.70 ล้านบาท
  • ALL23OA มูลค่า  380.00 ล้านบาท
  • ALL242A มูลค่า  168.20 ล้านบาท
  • ALL244A มูลค่า 709.90 ล้านบาท

5.หุ้นกู้ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) มี 7 ชุด มูลค่ารวม  2,575.38 ล้านบาท 

  • ACAP202A มูลค่า  395.30 ล้านบาท 
  • ACAP207A มูลค่า  716.10 ล้านบาท
  • ACAP209A  มูลค่า  196.50 ล้านบาท
  • ACAP19OA มูลค่า  668.68 ล้านบาท
  • ACAP20NA มูลค่า  294.10 ล้านบาท
  • ACAP212A มูลค่า 229.80 ล้านบาท
  • ACAP213A มูลค่า    74.90 ล้านบาท

6.หุ้นกู้ บจก.เดซติเนชั่น รีสอร์ทส์ (DR) มี 2 ชุด มูลค่ารวม 1,210.00 ล้านบาท 

  • DR2ODA มูลค่า 653.00  ล้านบาท
  • DR212A มูลค่า 557.00  ล้านบาท 

7.หุ้นกู้ บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (APEX) มี 1 ชุด มูลค่าหนี้รวม  765.00 ล้านบาท 

  • APEX202A  มูลค่า 765.00  ล้านบาท