STEC ปรับโครงสร้าง ตั้งโฮลดิ้ง"บมจ.สเตคอน กรุ๊ป"บริหาร แถลง 13 ธ.ค.นี้

11 ธ.ค. 2566 | 22:05 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2566 | 07:20 น.

STEC ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพิกถอนหุ้นออกจากตลาด พร้อมตั้ง "บมจ.สเตคอน กรุ๊ป" เป็นบริษัทโฮลดิ้งฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมแถลงวันที่ 13 ธันวาคม นี้

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น หรือ STEC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 มีมติอนุมัติเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นและการจัดการของบริษัท โดยการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด ที่ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding company) ภายใต้ "บมจ.สเตคอน กรุ๊ป" โดยมีวัตถุประสงค์การปรับโครงสร้างเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ และกระจายความเสี่ยงของแต่ละธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ และความคล่องตัวในการบริหารจัดการของกลุ่มบริษัทให้เหมาะสมแต่ละธุรกิจ
 

แผนการปรับโครงสร้างดังกล่าว บริษัทจะจัดตั้ง "บมจ.สเตคอน กรุ๊ป" ประกอบธุรกิจโฮลดิ้งและจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมถึงจะนำหุ้นของบริษัทดังกล่าว เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะยื่นขออนุญาตต่อ ก.ล.ต.สำหรับเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ พร้อมทั้งทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เดิมของบริษัท เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ

ทั้งนี้บริษัทโฮลดิ้ง จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ได้แก่ หุ้นสามัญของบริษัท โดยกำหนดวิธีการชำระค่าหุ้นด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทโฮลดิ้งในอัตราการแลกหุ้น (Share Swap Ratio) ที่หุ้นสามัญของบริษัทโฮลดิ้ง 1 หุ้น ต่อ หุ้นสามัญของบริษัท 1 หุ้น

โดยภายหลังสิ้นสุดระยะเวลาทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทเสร็จสิ้น หลักทรัพย์ของบริษัทโฮลดิ้งจะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของบริษัทฯ หรือ บริษัทย่อยของบริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะซื้อหุ้นในบริษัทย่อยบริษัทร่วม และเงินลงทุนในบริษัทอื่นที่บริษัทถืออยู่ ซึ่งอาจรวมถึงหุ้นของบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท โดยมีรายชื่อบริษัทดังต่อไปนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัท

รายชื่อบริษัทย่อย บริษัทร่วมและเงินลงทุนในบริษัทอื่น

  • 1.บริษัท สเตคอน เพาเวอร์ จำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 999,999 หุ้น สัดส่วน 99.99%
  • 2. บริษัท ซิโน-ไทย โฮลดิ้ง จำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 49,999  หุ้น สัดส่วน 99.99%
  • 3. บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์ เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 30,000,000 หุ้น สัดส่วน 20.00%
  • 4. บริษัท ยูทีบี จำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ    20,000 หุ้น สัดส่วน 20.00%
  • 5. บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัดจำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 21,600,000 หุ้น สัดส่วน 15.00%
  • 6. บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรลจำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 21,600,000  หุ้น สัดส่วน 15.00%
  • 7. บริษัท บีจีเอสอาร์ 6 จำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 10,000,000 หุ้น สัดส่วน 10.00%
  • 8. บริษัท บีจีเอสอาร์ 81 จำกัด จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 8,500,000 หุ้น สัดส่วน10.00%
  • 9. บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 220,000,000   หุ้น สัดส่วน 1.88%
  • 10. บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) จำนวนหุ้นที่บริษัทถือ 190,575,000 หุ้น สัดส่วน         9.00%

 

STEC ปรับโครงสร้าง ตั้งโฮลดิ้ง\"บมจ.สเตคอน กรุ๊ป\"บริหาร แถลง 13 ธ.ค.นี้

STEC ปรับโครงสร้าง ตั้งโฮลดิ้ง\"บมจ.สเตคอน กรุ๊ป\"บริหาร แถลง 13 ธ.ค.นี้

 

ทั้งนี้บริษัทฯ กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเสนอเสนอแผนการปรับโครงสร้างและการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชมผู้ถือหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทโฮลดิ้ง จะดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์พร้อมการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 69/247 -1) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  (สำนักงาน ก.ล.ต.) และเข้าสู่ขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ เมื่อได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้วบริษัทฯ จะยื่นคำขอเพิกถอนหุ้นของบริษัทฯ ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

โดยภายหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เสร็จสิ้นแล้ว บริษัทโฮลดิ้งจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อแลกกับหุ้นสามัญของบริษัทฯ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนที่หุ้นของบริษัทฯ ในวันเดียวกันกับที่หุ้นของบริษัทฯ ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งบริษัทฯ คาดการณ์ว่ากระบวนการตามแผนการปรับโครงสร้างข้างต้นจะเกิดขึ้นภายในปี 2567

ทั้งนี้ การดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการข้างต้น จะขึ้นอยู่กับการขออนุมัติและการขออนุญาตที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการขออนุญาตจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น หน่วยงานรัฐ และ/หรือคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ

ในการนี้ บริษัทฯ จะจัดแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของบริษัท ในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 30 อาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ถนนอโศก ซอย สุขุมวิท 21  กรุงเทพฯ