จำนวนหุ้นกู้เอกชนที่กำหนดจะครบชำระคืนในปี 2567 สูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งบางบริษัทก็อาจขาดสภาพคล่องได้ โดยอัพเดทถึงปัจจุบัน (18 ธ.ค. 66 ) พบมีบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้ (Default Payment) แล้วทั้งสิ้น 7 บริษัท มูลหนี้รวมกว่า 22,295 ล้านบาท
การลงทุนในหุ้นกู้ แม้จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้น แต่ก็มีความเสี่ยงสูงสุดที่อาจเกิดได้ นั่นคือการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนในหุ้นกู้แล้วจึงควรติดตามข้อมูลข่าวบริษัทอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะงบการเงินซึ่งบ่งบอกถึงฐานะการเงินของบริษัท นอกจากนี้อาจจะดูข้อมูลจาก Credit Rating ที่จัดอันดับ ว่าหุ้นกู้ที่เราลงทุนไปนั้นมีการจัดอันดับเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากเปลี่ยนไปในทิศทางด้อยลง ก็อาจจะต้องดูเป็นพิเศษ
นอกจากนี้นักลงทุนบางคนลงทุนใน High Yield Bond พูดง่าย ๆ ก็คือ บริษัทผู้ออกได้ Credit Rating น้อย เช่น BBB– ลงมา ก็อาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหุ้นกู้ประเภทนี้มักให้ดอกเบี้ยที่สูงเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จึงมีโอกาสที่ High Yield Bond จะมีโอกาสผิดนัดชำระมากกว่า Investment Grade Bond
หากหุ้นกู้ผิดนัดชำระ ผู้ลงทุนควรทำอย่างไร?
1.หาใบหุ้นกู้เพื่อดูว่าผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เราเป็นใคร
ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คือ ผู้ทำหน้าที่ในการดูแลรักษาผลประโยชน์ทุกอย่างของผู้ลงทุน พูดง่าย ๆ คือ จะคอยดูแลว่าผู้ออกหุ้นกู้ได้ทำตามเงื่อนไขที่มีในหุ้นกู้ ครบถ้วนหรือไม่ และหากผู้ออกหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะเป็นผู้เรียกจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาข้อสรุป หลังจากนั้นหากผู้ออกหุ้นกู้ไม่ปฏิบัติตาม ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จะดำเนินการเรียกร้องให้ชำระหนี้ บังคับหลักประกัน และเรียกร้องค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้จากเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เป็นผู้ที่มีบทบาทมากในการช่วยฟ้องร้อง บังคับหลักประกัน และเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน ให้ข้อมูลต่างๆกับนักลงทุน
2. ต้องรู้ว่าตัวเองถือหุ้นกู้ประเภทใด? และรุ่นไหน
เราต้องดูว่าหุ้นกู้ที่ถืออยู่เป็นหุ้นกู้ประเภทใดเพื่อดูสิทธิ์ลำดับในการชำระ เช่น หุ้นกู้ด้อยสิทธิ หรือไม่ด้อยสิทธิ หุ้นกู้ที่ถือมีหลักประกันหรือไม่ หากหุ้นกู้ที่ถือมีหลักประกัน หากบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ล้มละลาย หรือมีการชำระบัญชีเพื่อเลิกกิจการ หรือมีคำสั่งให้ต้องขายสินทรัพย์ทอดตลาดเพื่อชำระหนี้คืนให้แก่เจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น จะได้รับคืนตามสัดส่วนตามลำดับสิทธิ์ เท่านั้น
3. ลำดับสิทธิ์ในการรับชำระคืนหุ้นกู้
หุ้นกู้มีประกัน -> หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ -> หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและด้อยสิทธิ -> หุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุน -> หุ้นบุริมสิทธิ -> หุ้นสามัญ
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบลำดับการชำระหนี้ของหุ้นกู้รุ่นที่ตัวเองถือครองได้จากสรุปข้อมูลสำคัญของตราสาร (Factsheet) ของหุ้นกู้ ซึ่งจะมีลำดับการชำระหนี้แจ้งอยู่
ที่มา : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) , Krungsri The COACH