ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2566 ดัชนี SET ( 27 ธ.ค.66 ) ปิดตลาดที่ 1,410.43 จุด ปรับลดลง 258.23 จุด หรือ -15.48% ( YoY จากสิ้นปี 2565 ) โดยมูลค่าหลักทรัพย์ (SET+ mai) อยู่ที่ 17.78 ล้านล้านบาท ลดลง 3.19 ล้านล้านบาท จากมูลค่าตลาดสิ้นปี 2565 ที่ 20.97 ล้านล้านบาท
แต่แม้ตลาดหุ้นไทยปี 2565 จะเผชิญหลายปัจจัยลบซัดกระหน่ำ ทั้งกรณีหุ้นบมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) และบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ที่กระทบความเชื่อมั่น และปัจจัยภายนอก ทั้งสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ยืดเยื้อ, ดอกเบี้ยทั่วโลกขาขึ้น และเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ
กระนั้นก็ตามมีบริษัทจดทะเบียน(บจ.) เข้าระดมทุนในปี 2566 จำนวน 40 บริษัท มูลค่าระดมทุนรวม 38,259.50 ล้านบาท เทียบปี 2565 มีบจ.ระดมทุนทั้งสิ้น 42 บริษัท (รวมกองทรัสต์ 2 กอง) มูลค่าระดมทุนรวม 97,852.50 ล้านบาท
ฐานเศรษฐกิจ ได้รวบรวมหุ้น IPO ปี 2566 ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(วันที่ 26 ธ.ค.66) พบมี 13 หลักทรัพย์ สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อหุ้นจอง ได้ในระดับ 12% - 200% ส่วนที่เหลืออีก 27 หลักทรัพย์ "ติดลบ" ดังนี้
1.บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ปิดซื้อขายวันแรก 8.50 บาท (+71.72%) จากราคา IPO หุ้นละ 4.95 บาท โดยปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 16.50 บาท เพิ่มขึ้น 233.33%
2.บมจ.เจนก้องไกล (JPARK) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 ในหมวดบริการ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 4.66 บาท (+22.63%) จากราคา IPO หุ้นละ 3.80 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 77.63%
3.บมจ.เรดดี้แพลนเน็ต (READY) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 ในหมวดเทคโนโลยี ราคาปิดซื้อขายวันแรก 15.00 บาท (+105.48%) จากราคา IPO หุ้นละ 7.30 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 52.05%
4.บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 ในหมวดบริการ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 10.50 บาท(+50.00%) จากราคา IPO หุ้นละ 7.00 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 10.60 บาท เพิ่มขึ้น 51.43%
5.บมจ.ไทย โคโคนัท (COCOCO) เข้าซื้อขายในตลาด SET เมื่อวันที่ 14 ก.ย.66 ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร/ อาหารและเครื่องดื่ม ราคาปิดซื้อขายวันแรก 7.90 บาท (+43.64%) จากราคา IPO หุ้นละ 5.50 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 7.95 บาท เพิ่มขึ้น 44.54%
6.บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) เข้าซื้อขายในตลาด mai เมื่อวันที่ 24 ต.ค.66 ในหมวดบริการ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 15.80 บาท (+12.86%) จากราคา IPO หุ้นละ 14.00 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 24.28%
7.บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) เข้าซื้อขายในตลาด mai เมื่อวันที่ 25 ม.ค.66 ในหมวดบริการ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 69.00 บาท (+50.00%) จากราคา IPO หุ้นละ 46.00 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 21.74%
8.บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) เข้าซื้อขายในตลาด SET เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 ในหมวดบริการ/ ขนส่งและโลจิสติกส์ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 4.98 บาท (-5.14%) จากราคา IPO หุ้นละ 5.25 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 6.20 บาท เพิ่มขึ้น 18.09 %
9.บมจ.เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) เข้าซื้อขายในตลาด MAI เมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 ในหมวดบริการ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 44.25 บาท (+55.26%) จากราคา IPO หุ้นละ 28.50 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 14.91 %
10.บมจ.บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป (BVG) เข้าซื้อขายในตลาด MAI เมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 ในหมวดเทคโนโลยี ราคาปิดซื้อขายวันแรก 6.50 บาท (+68.83%) จากราคา IPO หุ้นละ 3.85 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 4.40 บาท เพิ่มขึ้น 14.28%
11.บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น (SINO) เข้าซื้อขายในตลาด SET เมื่อวันที่ 20 ก.ย.66 ในหมวดบริการ / ขนส่งและโลจิสติกส์ ราคาปิดซื้อขายวันแรก 1.93 บาท(+37.86%) จากราคา IPO หุ้นละ 1.40 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 1.57บาท เพิ่มขึ้น 12.14%
12.บมจ.เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท (SCL) เข้าซื้อขายในตลาด mai เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 ในหมวดสินค้าอุตสาหกรรม ราคาปิดซื้อขายวันแรก 1.37บาท (-11.04%) จากราคา IPO หุ้นละ 1.54 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 1.62 บาท เพิ่มขึ้น 5.19%
13.บมจ.เคซีจี คอร์ปอเรชั่น (KCG ) เข้าซื้อขายในตลาด SET เมื่อวันที่ 3 ส.ค.66 ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร / อาหารและเครื่องดื่ม ราคาปิดซื้อขายวันแรก 8.30 บาท (-2.35%) จากราคา IPO หุ้นละ 8.50 บาท และปิดซื้อขาย ณ วันที่ 26 ธ.ค.66 ที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 4.70%