ตลาดหุ้นไทย ผันผวนพลิกกลับเป็นลบมากขึ้น หลังดัชนีหุ้นไทย ( SET Index) ปรับตัวลงหลุดระดับ 1400 จุด ถือเป็นจังหวะเหมาะที่จะทยอยสะสม"หุ้นปันผล" หลบภัยได้ดีในยามนี้ และยังได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผล อีกทั้งส่วนต่างจากราคา(อัพไซด์) เมื่อตลาดฯพลิกฟื้นตัว
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า จากการศึกษาความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา พบว่าหุ้นปันผลมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด(Outperform) เสมอในช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย. ของทุกปี โดยมีความเป็นไปได้สูงเฉลี่ยมากกว่า 70% และจะให้ผลตอบแทนโดยรวมเฉลี่ยดีกว่าตลาดประมาณ +2.4% ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับหุ้นปันผลมากเป็นพิเศษสำหรับการลงทุนในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ทั้งนี้ เราใช้ดัชนี SETHD TRI (ย่อมาจาก SET High Dividend Total Return Index) เป็นตัวแทนหุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่ที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง 30 ตัวแรกของตลาด
สแกนหุ้นปันผลน่าสนใจในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้จากการตรวจสอบหุ้นปันผลสูงใน SETHD Index และคาดการณ์เงินปันผลจ่ายของตลาดโดยรวม (Bloomberg Consensus) หลังหักการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว หุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เหลือ (Remaining Dividend Yield) สูงกว่าระดับ 4% ขึ้นไป และมี Upside เป็นบวกมากกว่าระดับ 20% เรียงลำดับตามอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงไปต่ำ 5 อันดับแรก คือ
ส่วนอีก 10 หุ้นปันผลเด่นใน SETHD Index ที่เหลือ ผลตอบแทนระดับ 2.8 - 6.0% และอัพไซด์โดยเฉลี่ยเกิน 10% ได้แก่
นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ ยังคัดเลือกหุ้นปันผลดีที่ไม่ได้อยู่ใน SETHD Index โดยอิงจาก 3 วิธีการหลัก คือ
1) คัดเลือกจากหุ้นที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรา (TISCO Coverage) –หุ้นปันผลเด่น แนะนำ
2) คัดเลือกจากหุ้นที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของตลาด (Bloomberg Consensus)
3) คัดเลือกหุ้นนอกเหนือการวิเคราะห์ของตลาดภายใต้เกณฑ์ที่เรากำหนด (Non-Bloomberg Consensus)