ความคืบหน้าพนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้อง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ใน คดีทุจริต บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STARK ซึ่งศาลอาญาได้พิจารณาคำร้องอัยการโจทก์เเล้วมีคำสั่งประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.441/2567
ภายหลังนายวนรัชต์ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีลักษณะเป็นการสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก โจทก์คัดค้านการปล่อยชั่วคราวจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ข้อหาที่อัยการส่งฟ้องนายวนรัชต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ STARK ในความผิดฐานเป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตราดังนี้ คือ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 89/7 มาตรา 89/24 มาตรา 281/2 วรรคสอง มาตรา 306 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 91 มาตรา 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4
นอกจากนี้อัยการยังขอศาลได้สั่งให้จำเลยในคดี STARK ร่วมกันคืนเงินที่ฉ้อโกงไปจำนวน 14,778 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้คืนให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4,692 ราย และผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 12 ราย ผู้เสียหาย, ปรับจำเลยเป็นเงินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับ โดยไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายวนรัชต์ ทางอัยการไม่ได้มีการสั่งฟ้องในข้อหาฟอกเงินในคดี STARK เนื่องจากการตรวจสอเส้นทางเงิน ไม่พบว่ามีการโอนเงินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเข้าออกบัญชีนายวนรัชต์
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการตรวจสอบไปยังพนักงานอัยการที่ทำคดีนี้ ได้รับการชี้แจงถึงสาเหตุที่อัยการไม่ได้ส่งฟ้องนายวนรัชต์ ในข้อหาคดีฟอกเงิน เพราะทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไม่ได้แจ้งข้อหานายวนรัชต์ ตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ เอกสารหลักฐานจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ก็ไม่พบว่ามีเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับนายวนรัชต์ ทางอัยการจึงมีคำสั่งฟ้องข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ และข้อหาฉ้อโกง ไม่เหมือนกับผู้ต้องหารายอื่นที่อัยการมีคำสั่งฟ้องในคดีฟอกเงินด้วย