บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ถัดไป (4-8 มี.ค.67) คาดดัชนีหุ้น (SET Index) มีแนวรับที่ 1,360 และ 1,350 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,375 และ 1,385 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สาคัญ ได้แก่ ดัชนีISM/PMI ภาคบริการข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.พ. รวมถึงจ านวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB ดัชนีPMI ภาคบริการเดือนก.พ. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซนและอังกฤษ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของยูโรโซน ตลอดจนข้อมูลการส่งออกเดือนม.ค.-ก.พ. ของจีน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย (26 ก.พ.-1 มี.ค.67)
ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายของต่างชาติ หุ้นไทยปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนประกอบกับนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/66 ออกมาน่าผิดหวัง และกลุ่มโรงไฟฟ้าจากความกังวลในประเด็นที่ภาครัฐอาจพยายามตรึงอัตราค่าไฟฟ้า ทั้งนี้การปรับ MSCI Rebalance ซึ่งมีผลในวันที่ 29 ก.พ. 2567 และแรงขายทำกำไร หลังจบช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/66 ส่งผลให้หุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงเทขายหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม สวนทางกับภาพรวมตลาดหุ้นต่างประเทศที่ขยับขึ้นได้ในช่วงปลายสัปดาห์
ในวันศุกร์ที่ 1 มี.ค. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,367.42 จุด ลดลง 2.20% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,557.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.55% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนีmai ลดลง 2.01% มาปิดที่ระดับ 413.24 จุด
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิหุ้นไทย 6,725 ล้านบาทและชะลอสถานะ Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย โดยมียอดอยู่ที่ 650 ล้าน