"พิชัย ชุณหวชิร"ขายหุ้น BCPG เกลี้ยงพอร์ต จับตานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลัง

18 มี.ค. 2567 | 05:02 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มี.ค. 2567 | 12:40 น.

"พิชัย ชุณหวชิร" ประธานบอร์ด บมจ.บีซีพีจี ตัดขายหุ้น BCPG เกลี้ยงพอร์ต 1,169,642 หุ้น เฉลี่ยหุ้นละ 7.30 บาท เมื่อ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังกระแสมาแรง เต็งนั่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ หลังปิดสมัยประชุมสภาฯ 9 เม.ย. 67 นี้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งตามข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59 ) จากบริษัทบีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG  ระบุว่า นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการของบริษัท ฯ ได้ขายหุ้น BCPG ที่ถือทั้งหมดจำนวน 1,169,642 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ  7.30 บาท เป็นมูลค่ารวม 8,538,386.60 บาท โดยทำรายการซื้อขายบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ผ่านบริษัท หลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) 

\"พิชัย ชุณหวชิร\"ขายหุ้น  BCPG เกลี้ยงพอร์ต  จับตานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลัง ภายหลังการจำหน่ายหุ้น BCPG ทั้งหมด คิดเป็นสัดส่วน 0.0039% ทำให้ พิชัย ชุณหวชิร ไม่ได้ถือหุ้นใน BCPG อีกต่อไป

จ่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลังคนใหม่

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 67 รายการเนชั่นอินไซด์ ดำเนินรายการโดย 2 บก.บากบั่น บุญเลิศ และ วีระศักดิ์ พงศ์อักษร ทาง เนชั่นทีวี ช่อง 22 ได้เปิดประเด็นเรื่องการ “ปรับ ครม.” โดยระบุว่า ในการปรับ ครม.ที่จะมีขึ้นหลังการปิดสมัยประชุมสภาฯ (สภาปิด 9 เม.ย. 67) รัฐบาลจะมีการ ปรับครม. โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเลิกนั่งควบเก้าอี้ รมว.คลัง และหาคนใหม่มาทำหน้าที่แทน

โดยผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีชื่อ นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และประธานบอร์ด บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) 

อนึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดข้อห้ามการถือหุ้นของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐสภา สรุปไว้ว่า ไม่เพียงแต่การห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งในการเมือง ในการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ยังรวมถึงการห้ามเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • 1.ต้องไม่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ
  • 2.ไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน
  • 3.ไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติ

หากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีผู้ใดประสงค์จะได้รับประโยชน์จากกรณีดังกล่าวต่อไป ให้แจ้งประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และให้โอนหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าวให้แก่นิติบุคคล และจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทไม่ว่าในทางใด ๆ มิได้

ซึ่งในห้างหุ้นส่วนจำกัด รัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้ไม่เกิน 5% ของทุนทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ส่วนบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด รัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นได้ไม่เกิน 5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จำหน่ายได้ในบริษัท

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจหลัก : เป็นบริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด รวมถึงลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.บีซีพีจี

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ฯ ข้อมูล ณ วันที่  5 มี.ค. 2567 ประกอบด้วย

  • บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือ 1,731,930,776 หุ้น สัดส่วน 57.81%
  • CAPITAL ASIA INVESTMENTS PTE. LTD. ถือ 113,950,000 หุ้น สัดส่วน 3.80%
  • บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือ 105,047,228 หุ้น สัดส่วน 3.51%
  • น.ส.แคทรียา บีเวอร์  ถือ 33,250,000 หุ้น สัดส่วน 1.11%
  • SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED  ถือ 22,733,821 หุ้น สัดส่วน 0.76%
  • น.ส. สุภารัตน์ สง่าเมือง ถือ 21,237,500 หุ้น สัดส่วน     0.71%
  • STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือ    20,857,184 หุ้น สัดส่วน 0.70%
  • สำนักงานประกันสังคม ถือ19,733,134 หุ้น สัดส่วน 0.66%
  • กองทุนเปิด เคเคพี หุ้นระยะยาวปันผล ถือ 17,398,000      หุ้น สัดส่วน 0.58%
  • น.ส.กนกพร ศีตวรรัตน์ ถือ 15,500,000 หุ้น สัดส่วน 0.52%