นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน่าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมมือกับ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด ร่วมลงนามในพิธีเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในรูปแบบ Solar floating (แผงโซลาร์ลอยน้ำ) Solar farm (แผงโซลาร์ติดตั้งบนพื้นดิน) และ Solar rooftop (แผงโซลาร์ติดตั้งบนหลังคา) รวม 14 โครงการ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และเพชรบูรณ์ ภายใต้กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 46.36 เมกะวัตต์
เบื้องต้นจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/28 หรือไม่เกินไตรมาส 2/68 เป็นต้นไป ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือของทั้ง 3 บริษัท ในด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และสถานการณ์โลกที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต รวมทั้งทำให้ สหฟาร์ม และ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าโดยรวมได้มากกว่า 1,600 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 14 ปี
โดยโครงการติดตั้ง พร้อมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับสหฟาร์ม และ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส ครั้งนี้ โดย WHAUP จะเป็นการเข้าไปลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ให้และรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสม ถือเป็นโครงการแรกของการดำเนินการด้านพลังงานหมุนเวียนภายนอกนิคมอุตสาหกรรมในภาคธุรกิจเกษตรกรรม (Agriculture) โดยไฟฟ้าที่ได้จะใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมของสหฟาร์ม ตั้งแต่โรงเชือด โรงแปรรูป โรงเลี้ยงไก่ โรงฟักไข่ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี และเพชรบูรณ์
ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ไร่ อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังจากการเซ็นสัญญากับ สหฟาร์ม และ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส ในครั้งนี้ ส่งผลให้ WHAUP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 915 เมกะวัตต์ เข้าใกล้เป้าหมายการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ 1,000 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าทุกประเภท โดยเป็นพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Private PPA และสัญญากับภาครัฐ รวมเป็นจำนวน 367 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงได้รับความสนใจในการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ประเภทต่างๆ จากภาคเอกชนรายอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตยางพารา ขนาดกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 20 เมกะวัตต์ เบื้องต้นคาดว่าจะได้เห็นข้อสรุปที่ชัดเจนในระยะถัดไป
นางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ กรรมการ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด กล่าวว่า จากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 37% จากปีก่อน ในขณะที่ราคาขายไก่สด และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไก่ไม่สามารถส่งต่อต้นทุนไปยังผลิตภัณฑ์ไก่ได้ เพราะถูกควบคุมราคา จากการที่ทาง WHAUP เข้ามาลงทุนติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ข้างต้น มองว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้มากถึงกว่า 40%
อุตสาหกรรมเกษตรของกลุ่มสหฟาร์ม เป็นอุตสาหกรรมการผลิตไก่ครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการฟักไข่ การให้แสงสว่าง การทำให้ไก่อบอุ่น ขบวนการผลิตอาหารสัตว์ และเครื่องจักรสำหรับการผลิตต่างๆ ภายในโรงงาน ล้วนแล้วแต่ใช้พลังงานสูงมาก และปัจจุบันราคาค่าพลังงานมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ และการผลิตพลังงานบางส่วนก็ยังคงมีผลต่อสภาพแวดล้อม กลุ่มสหฟาร์มตระหนักได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจึงริเริ่มปลุกจิตสำนึกในกับคนในองค์กร โดยเริ่มต้นด้วยการเน้นไปที่การประหยัดพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานพลังงานให้มีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมให้น้อยที่สุด
กลุ่มบริษัทในเครือสหฟาร์ม จึงได้ร่วมกับ WHAUP วางแผนในการลดต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาดผลิตได้ตลอดทั้งปี ติดตั้งครอบคลุมพื้นที่ของสหฟาร์มถึง 300 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการย่อย 14 โครงการ มีกำลังผลิตไก่ได้กว่า 700,000 ตัวต่อวัน ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 30 % โดยคิดจากการทำงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน
หากคิดเป็นจำนวนเงิน จะสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,600 ล้านบาท ภายใน 14 ปี รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 870,000 ตัน ใน 25 ปี เชื่อว่าการร่วมมือกับ WHAUP ครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเอาเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด เข้ามาช่วยสนับสนุนงานเกษตรอุตสาหกรรม ให้ลดการใช้พลังงานแบบดั้งเดิม ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและดีต่อโลกของเรามากยิ่งขึ้นในอนาคต