AMATA เนื้อหอมต่างชาติรุมจีบซื้อที่ดิน ตุนแบ็กล็อก1.42 หมื่นล้าน

22 มี.ค. 2567 | 00:00 น.

AMATA มองผลการดำเนินงานปี 67 เด่น ลูกค้าต่างชาติเรียงคิวซื้อที่ดินเพิ่ม แย้มมีที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายอีกจำนวนมาก อวดแบ็กล็อกหนา 1.42 หมื่นล้าน คาดโอนปีนี้กว่า 50% ทุ่มงบ 5-6 พันล้าน กวาดซื้อที่ดิน ชลบุรี-ระยอง

นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ  ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าโดยเฉพาะต่างชาติเข้ามาขอเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม (Site visit) เป็นจำนวนมาก ทำให้ในไตรมาส 1/2567 บริษัทมีแนวโน้มการเซ็นสัญญาซื้อขาย (MOU) และได้รับเงินมัดจำก้อนแรกเข้ามาเพิ่มเติม

ในแง่ของยอดโอนกรรมสิทธิ์คาดว่าในไตรมาส 1/2567 อาจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการส่งมอบ อีกทั้งยังเป็นโลวซีซันของธุรกิจ แต่คาดว่ายอดโอนจะมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังปีที่เป็นไฮซีซันของธุรกิจ

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ในมือ (Backlog) ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม รวมกว่า 14,285 ไร่ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าและรับรู้เข้ามาเป็นได้ไม่น้อยกว่า 50% ของงานที่มีในมือทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตให้กับรายได้ในปี 2567 จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 9,784.59 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะปรับขึ้นราคาขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทั้งชลบุรีและระยองเพิ่มเติม จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 11/ไร่ ล้านบาท และ 4.5 ล้านบาท/ไร่ คาดว่าจะเข้ามาช่วยผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้มีการเติบโตที่ดีขึ้นได้อีกแรงหนึ่ง

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะ Spin-off บริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจพลังงานและบริการ เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าภายในปี 2567 จะมีการยื่นไฟลิ่ง กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคาดว่าจะเข้าเทรดได้ในปีต่อไป มองว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปีนี้ผลงานจะโตเฉลี่ย 4-5% ต่อปี ใกล้เคียงสถิติในอดีตที่ทำได้

ส่วนงบลงทุนในปี 2567 บริษัทจะแบ่งใช้เงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นเงินลงทุนเพิ่อรองรับการจัดซื้อที่ดินแปลงใหม่ ในทำเลจังหวัดชลบุรี และระบอง เพื่อรอการพัฒนาในอนาคต ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท และอีกส่วนจะใช้รองรับในการก่อสร้างขยายเฟซพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนา (Land bank) ในมือคงเหลืออีกกว่า 14,538 ไร่