จากข้อมูลที่ทางวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 2566 พบว่า ผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี นายนิติ โอสถานุเคราะห์ และนพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ที่ได้ผลตอบแทนในปีก่อนไปจนล้นกระเป๋า
ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบข้อมูล 3 เศรษฐีหุ้นไทยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี 2567 พบว่า นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้น 3 ตัว คือ หุ้น GULF, ITC และ ROCTEC
สำหรับ “หุ้น GULF” นายสารัชถ์ ถือจำนวน 4,202,177,897 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 35.81% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น GULF ในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 44.25 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 43.75 บาท มีการปรับตัวลดลง 0.50 บาท คิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 1.12% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 46.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 41.50 บาท
อย่างไรก็ตาม หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 185,946.37 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. 2567 มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ที่ระดับ 183,845.28 ล้านบาท มูลค่าลดลง 2,101.08 ล้านบาท
ส่วน "หุ้น ITC" นายสารัชถ์ ถือจำนวน 20,027,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 0.67% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ITC ในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 21.00 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 20.50 บาท มีการปรับตัวลดลง 0.50 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 2.38% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 21.50 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 17.50 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 420.56 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ที่ระดับ 410.55 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 10.01 ล้านบาท
ขณะที่ "หุ้น ROCTEC" นายสารัชถ์ ถือจำนวน 81,491,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 1.00% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 0.61 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.71 บาท มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 16.39% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 0.73 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 0.55 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 49.70 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ที่ระดับ 57.85 ล้านบาท ปรับตัว เพิ่มขึ้น 8.14 ล้านบาท
นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น 10 ตัว คือ หุ้น BKI, CENTEL, CPALL, CPN, HMPRO, IRC, MINT, OSP, TFMAMA และ WHA
โดยนายนิติ ถือ "หุ้น BKI" จำนวน 2,224,362 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 2.09% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 306.00 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 296.00 บาท มีการปรับตัวลดลง 10.00 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 3.26% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 319.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 294.00 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 680.65 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 658.41 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 22.24 ล้านบาท
ขณะที่ "หุ้น CENTEL" นายนิติ ถืออยู่จำนวน 41,314,611 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 3.06% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 67 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 43.75 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 67 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 43.00 บาท มีการปรับตัวลดลง 0.75 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 1.71% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 47.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 41.00 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 1,807.51 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ที่ระดับ 1,776.52 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 30.98 ล้านบาท
การถือ "หุ้น CPALL" นั้น นายนิติ มีจำนวน 138,986,600 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 1.55% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 56.25 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 54.75 บาท มีการปรับตัวลดลง 1.50 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 2.66% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 60.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 51.25 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 7,817.99 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่า อยู่ที่ระดับ 7,609.51 ล้านบาท ปรับตัว ลดลง 208.47 ล้านบาท
นอกจากนี้ นายนิติ ยังถือ "หุ้น CPN" จำนวน 83,234,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 1.85% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 69.50 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 63.00 บาท มีการปรับตัวลดลง 6.50 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 9.35% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 69.50 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 62.00 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 5,784.79 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่า อยู่ที่ระดับ 5,243.77 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 541.02 ล้านบาท
ส่วนการถือ "หุ้น HMPRO" นายนิติ มีจำนวน 665,764,862 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 5.06% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 11.70 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 10.60 บาท มีการปรับตัวลดลง 1.10 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 9.40% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 12.30 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 10.30 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 7,789.44 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ที่ระดับ 7,057.10 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 732.34 ล้านบาท
ในส่วนการถือ "หุ้น IRC" นายนิติ มีจำนวน 2,838,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 1.48% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 13.80 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 12.60 บาท มีการปรับตัวลดลง 1.20 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 8.69% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 14.30 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 12.40 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 39.16 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 35.75 ล้านบาท ปรับตัว ลดลง 3.40 ล้านบาท
การถือ "หุ้น MINT" จำนวน 555,384,428 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 9.80% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 30.00 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 33.25 บาท มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 10.83% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 34.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 26.75 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 16,661.53 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ที่ระดับ 18,466.53 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,804.99 ล้านบาท
"หุ้น OSP" จำนวน 723,097,300 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 24.07% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 21.90 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 20.30 บาท มีการปรับตัวลดลง 1.60 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 7.30% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 22.90 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 18.30 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 15,835.83 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 14,678.87 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 1,156.95 ล้านบาท
"หุ้น TFMAMA" จำนวน 3,334,336 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 1.01% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 215.00 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 212.00 บาท มีการปรับตัวลดลง 3.00 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 1.39% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 240.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 208.00 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 716.88 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 706.87 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 10.00 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน นายนิติ มีการถือ "หุ้น WHA" จำนวน 436,438,690 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 2.92% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 5.30 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.76 บาท มีการปรับตัวลดลง 0.54 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 10.18% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 5.35 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 4.50 บาท
หากเทียบมูลค่าหุ้นถือหุ้นในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 2,313.12 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 2,077.44 ล้านบาท ปรับตัว ลดลง 235.67 ล้านบาท
นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มีการถือหุ้น จำนวน 2 ตัว คือ BA และ BDMS
โดยนพ.ปราเสริฐ ถือ "หุ้น BA" จำนวน 238,942,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 11.38% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 15.70 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 15.80 บาท มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 0.63% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 16.40 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 14.20 บาท
โดยหากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 3,751.38 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 3,775.28 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.89 ล้านบาท
ส่วน "หุ้น BDMS" นพ.ปราเสริฐ ถือจำนวน 1,740,578,540 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือครองหุ้น 10.95% ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงไตรมาส 1/2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2567 ราคาหุ้นเปิดอยู่ที่ระดับ 27.50 บาท และต่อเนื่องมาจนถึง 29 มี.ค. 2567 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 28.50 บาท มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือคิดเป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 3.63% ของราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยในระหว่างนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปทำสุดสูงสุดที่ระดับ 30.00 บาท ก่อนที่จะย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 26.75 บาท
อย่างไรก็ดี หากเทียบมูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ในช่วงเปิดต้นปี 2567 นี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 47,865.90 ล้านบาท ในขณะที่สิ้นเดือนมี.ค. มูลค่าหุ้นที่ถือ อยู่ที่ระดับ 49,606.48 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,740.57 ล้านบาท