นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพบ์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ได้มีหนังสือลงวันที่ 29 เมษายน 2567 ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบของบริษัท เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว โดยการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาสรรหาและแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อเข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบแทนตำแหน่งที่ว่างลง และบริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป
อนึ่ง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เข้ารับตำแหน่งกรรมการ TNL ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563
ทั้งนี้ภายหลังจากที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้เหตุผลว่า ถูกปรับพ้นตำแหน่ง รองนายกฯ ทำให้ชื่อบุคคลที่จะมาแทนในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ถูกเล็งไปยัง "นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์" จากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า "คนที่มาแทนท่านอยู่ในแวดวงของการทูต แวดวงการเมืองมา เป็นคนที่ทำงานข้างหลังของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด"
ล่าสุดวานนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า นายกฯ นายเศรษฐา ได้เรียกนายมาริษเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า คาดว่าอาจมีการพูดคุยเรื่องงานในกระทรวงการต่างประเทศ หากเป็นเช่นนั้นจริง ชื่อของ“มาริษ เสงี่ยมพงษ์”ก็คงได้รับการเสนอเป็นรมว.ต่างประเทศคนใหม่ในเร็วๆนี้
มาริษ เสงี่ยมพงษ์ หรือ "อดีตทูตปู" เคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตเอกอัครราชทูต ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และในสมัย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเป็นที่ปรึกษานายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศคนล่าสุด โดยภายหลังนายปานปรีย์ลาออก ทำให้นายมาริษ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาทันที
เส้นทางข้าราชการ เคยรับราชการกระทรวงการต่างประเทศ โดยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย , อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ และอดีตเอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นต้น
ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แต่งตั้ง นายมาริษ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฯ สาธารณรัฐวานูอาตู โดย นายมาริษ เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้งแต่สมัที่นายทักษิณ ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ( รัฐบาลชวน หลีกภัย )