นายอัครวิทย์ สุกใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AF เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อรวมเติบโตที่ระดับ 10-12% หรือคิดเป็นเม็ดเงินปล่อยใหม่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 ที่มีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ราว 2,500 ล้านบาท โดยจะเน้นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทน กลุ่มธุรกิจทางการแพทย์ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และ กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นหลัก
เพื่อเป็นการควบคุมและบริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้คงอยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ในเทรนด์การเติบโตในช่วงขาขึ้นของกลุ่มธุรกิจ โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวคาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ในปีที่ผ่านมาบริษัทสนับสนุนสินเชื่อทุกประเภท ภายใต้ Green Finance Project ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท และ ปี 2567 นี้ ตั้งเป้าเติบโตมากกว่า 20%
ขณะเดียวกันบริษัทก็มีเป้าหมายที่จะรักษาระดับหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปี 2567 นี้ ให้ต่ำกว่า 4% จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.7% โดยต้องติดตามสถานการณ์ดอกเบี้ย และ เงินเฟ้อ ที่ยังอยู่ในระดับสูง ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อความสามารถในการชำระคืนของลูกค้า และมองว่าคงไม่มีการขยายตัวไปถึงระดับ 5% แน่นอน
ภาพรวมอุตสาหกรรมสินเชื่อเอสเอ็มอีปี 2567 นี้ บริษัทคาดว่าจะยังคงมีการเติบโตที่ประมาณ 1-2% จากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบต้นทุนดอกเบี้ยที่สูง ประกอบกับสถาบันการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็มีการชะลอการตัดสินใจในการขอสินเชื่อด้วยเช่นกันจากอัตราดอกเบี้ยที่คงอยู่ในระดับสูงซึ่งก็มีผลทางจิตวิทยาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินเชื่อแฟคตอริ่ง ทำให้มองว่าการเติบโตของตลาดสินเชื่อแฟคตอริ่งในปีนี้อาจไม่น่าเกิน 2% จากปีก่อน
ในฐานะผู้ประกอบการด้านแฟคตอริ่งอยากเสนอไปยังหน่วยงานภาครัฐ ดังนี้ ในระยะแรกเพื่อให้เกิดการเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างเท่าเทียมเสนอให้ภาครัฐ เช่น หน่วยงานภาครัฐต่างๆพิจารณาสนับสนุนคู่ค้าของรัฐ เช่นผู้จำหน่ายสินค้าและบริการแก่รัฐด้วยการร่วมมือกับผู้ให้บริการสินเชื่อ แฟคตอริ่ง ซึ่งมีข้อดี คือ ไม่ต้องใช้หลักประกัน และ เน้นพิจารณาความเสี่ยงขึ้นกับผู้ซื้อภาครัฐ ในฐานะแหล่งจ่ายเงินค่าสินค้า โดยสถาบันการเงินจะรับมอบสิทธิ์เรียกร้องจากผู้ขายในการรับชำระหนี้จากรัฐแทน ซึ่งจะทำให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนสำหรับเอสเอ็มอีทันที
ส่วนในระยะยาวปัจจุบันการให้บริการแฟคตอริ่งไทยใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่า ด้วยเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้องการรับเงิน ซึ่งประเทศอื่นมีกฎหมาย แฟคตอริ่งเฉพาะทำให้การให้บริการการเข้าถึง และ การดำเนินทางกฎหมายง่ายกว่า กรณีที่รัฐบาลสนับสนุน และผลักดันให้มีกฎหมายแฟคตอริ่งในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ธุรกิจแฟคตอริ่งเติบโตได้อีกหลายเท่า
สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคในปีนี้มองว่ายังคงไม่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดจีดีพีปีนี้จะขยายตัวได้ราว 2.5-3% มีเพียงบางภาคธุรกิจที่เติบโต อาทิ ภาคบริการและท่องเที่ยว แต่ในภาคส่วนอื่นๆ มองว่ายังไม่เติบโตมากนัก หลักๆ เป็นผลมาจากการใช้งบของรัฐบาล การลงทุนและการบริโภคของเอกชน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงต้นทุนการเงินสูงจึงมีผลกระทบต่อการเติบโตของอัตราการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้