นายอิศรินทร์ ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เปิดเผยว่า จากการท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ส่งผลทำให้ อัตราการเข้าพัก (Occ) รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (ADR) มีแนวโน้มอยู่ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าจะดีอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/2567 โดยเฉพาะโรงแรมในประเทศไทยและมัลดีฟส์ แม้ว่าตามปกติในช่วงไตรมาส 2 และ 3 จะเป็นโลวซีซัน
ส่วนโรงแรมที่เกาะฟิจิ และสหราชอาณาจักร (UK) คาดผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2567 จะมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าสู่ฤดูการเข้าพัก (Spen Season) ขณะที่ในกลุ่มมอริเชียสผลงานจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี บริษํทคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย มัลดีฟส์ สหราชอาณาจักร เกาะฟิจิ และเกาะมอริเชียส ในปี 2567 จะอยู่ที่ 35.1 ล้านคน, 2.0 ล้านคน, 39.5 ล้านคน, 1.0 ล้านคน และ 1.4 ล้านคน ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 13% จากปี 2566 ที่ระดับ 10,096.75 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 2,801.06 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25-26%
แผนการลงทุนในปี 2567 บริษัทเตรียมงบประมาณลงทุนไว้ที่ประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท หลักๆ เพื่อใช้รองรับในการปรับปรุงโรงแรมที่ SAii Laguna Phuket เบื้องต้นคาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 และแบ่งงบส่วนที่เหลือรองรับการปรับปรุงโรงแรมที่สหราชอาณาจักร
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีที่อยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจา ทั้งรูปแบบของการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) อยู่ในแผนแล้วประมาณ 1-2 ดีล
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาการรับจ้างบริหารโรงแรม ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายช่วง 5 ปี (ปี 2567-2571) ว่า ดีลเหล่านี้ช่วยหนุนให้ EBITDA สูงขึ้นได้ 2-3% ด้านอัตราผลตอบแทนภายในของโครงการ (IRR) เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 12-15% โดยคาดหวังรายได้จากผลงานในดีลใหม่ๆ เหล่านี้จะมีไม่ต่ำกว่า 25%
อีกทั้งบริษัทยังเร่งปรับปรุงหนี้ โดยจะลดหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสูง ชดเชยด้วยภาระดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลงได้ ด้านแบรนด์ SAII บริษัทฯ มีแผนพัฒนาสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับแขกผู้เข้าพัก และเน้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(sustainable tourism) รวมถึงเน้นดูแลด้านสุขภาพ (Healthy & Wellness) มากขึ้น