บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า ในไตรมาส 1/2567 หุ้นในกลุ่ม ICT แนะนำน้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาด” มีกำไรสุทธิรวมกัน 1.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 5% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่หุ้นที่ฝ่ายวิจัยศึกษา คือ ADVANC, TRUE, INTUCH, JMART และ 3BBIF มีกำไรรวมกันราว 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 655% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 16% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 74% ของกำไรสุทธิทั้งหมดของหุ้นในกลุ่ม ICT
ทั้งนี้ กำไรสุทธิโดยรวมของหุ้นที่ทางฝ่ายศึกษาโตทั้งจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพราะผลประกอบการที่ดีขึ้นเกือบ ทุกตัว ยกเว้น 3BBIF โดย TRUE เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 โดดเด่นสุดจากไตรมาสก่อน จากที่ขาดทุนสุทธิในระดับ 1.1 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 4/2566 (มีค่าใช้จ่ายพิเศษราว 1.0 หมื่นล้านบาท) เป็นขาดทุนสุทธิ 769 ล้านบาท แต่หากเทียบเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน พบว่า ADVANC กำไรโตดีสุด 25% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน จากรายได้ที่ยังโตได้ดี
สำหรับในช่วงไตรมาส 2/2567 ทางฝ่ายเชื่อว่าภาพรวมกำไรของหุ้นในกลุ่ม ICT ที่ศึกษาดังกล่าว จะชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนจากผลของฤดูกาล แต่จะยังโตได้เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดย ADVANC และ TRUE จะยังเป็นตัวหลักผลักดันกำไรของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางฝ่ายได้ปรับคาดการณ์กำไรของหุ้น TRUE และ JMART ไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อสะท้อนกำไรในไตรมาส 1/2567
ทำให้ประมาณการกำไรของกลุ่มสำหรับปี 2567-2568 ปรับขึ้นเป็น 5.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ 6.0 หมื่นล้านบาท โต 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ตามลำดับ ทางฝ่ายปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่ม ICT จากเดิม “เท่ากับ ตลาด” เป็น “มากกว่าตลาด” โดยเลือก ADVANC เป็นหุ้น Top picks เนื่องจากปัจจัย 3 ประการ คือ 1) มีกำไรปี 2567 ที่เติบโต, 2) ราคาหุ้นมี upside และ 3) มีปันผลในอัตราที่จูงใจราว 4.4-4.9% สำหรับปี 2567-2568
ในไตรมาส 1/2567 หุ้นในกลุ่ม ICT ทั้งหมดมีกำไรสุทธิรวม 1.72 หมื่นล้านบาท ลกลง 5% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยหุ้นที่ฝ่ายวิจัยศึกษา คือ ADVANC, TRUE, INTUCH, JMART และ 3BBIF มีกำไรสุทธิรวมกัน 1.27 หมื่นล้านบาท เติบโต 655% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 74% ของกำไรสุทธิรวมของกลุ่ม ICT
กำไรสุทธิโดยรวม (รวมรายการพิเศษ) ของหุ้นที่ทางฝ่ายศึกษาดังกล่าวโตได้แรงจากไตรมาสก่อน เพราะได้แรงผลักดันจากกำไรเติบโตของ ADVANC เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ TRUE จากไตรมาส 4/2566 ที่บันทึกผลขาดทุนสุทธิ 1.1 หมื่น ล้านบาท (มีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษราว 1 หมื่นล้านบาท จากผลขาดทุนด้อย ค่าสินทรัพย์, ขาดทุนจากเงินลงทุนใน บ.ร่วม และต้นทุนในการพัฒนาองค์กร) เหลือขาดทุนสุทธิเพียง 769 ล้านบาท ส่วนกำไรที่เติบโตเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เป็นเพราะการเติบโต ของ ADVANC, INTUCH และ JMART
หากไม่รวมรายการพิเศษ พบว่าหุ้นที่ฝ่ายวิจัยศึกษาทั้ง 5 ตัว มีกำไรปกติรวมกัน 1.43 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งกำไรที่โตดีทั้งจากไตรมาสก่อนและเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน มาจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นเกือบทุกบริษัท โดย TRUE มีการดำเนินงานปกติที่โตดีสุดเมื่อเทียบทั้งจากไตรมาสก่อนและเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยพลิกจากที่เคยมีขาดทุนปกติอยู่ราว 1.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/2567 และขาดทุนปกติ 1.6 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/2567 เป็นกำไรปกติ ได้ 766 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2567
รองลงไปเป็น ADVANC เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 26% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจาก TRUE สามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยเริ่มเห็น ประโยชน์จากการควบรวมกับ DTAC มากขึ้น ส่วน ADVANC มีกำไรที่โตดีทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน จากรายได้ของทั้งธุรกิจมือถือและธุรกิจบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ซึ่งส่งผลต่อกำไรของ INTUCH ที่เป็นผู้ถือหุ้น ใหญ่ให้โตดีตามไปด้วย
ทั้งนี้ มีเพียง 3BBIF ที่มีกำไรทรงตัวจากไตรมาสก่อน และชะลอลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากมีรายได้ค่า เช่ารับจาก บมจ. ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ที่น้อยลง ภายหลังการแก้ไข สัญญาเช่า ตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 ทำให้ไม่มีรายได้ในส่วนของค่าประกันรายได้สำหรับ สินทรัพย์รอง (สินทรัพย์ในส่วนที่ยังไม่มีผู้เช่า) ที่เคยได้รับจาก TTTBB อีก