MAGURO หุ้นน้องใหม่ เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่ง 44.65% วางเป้ารายได้ปี 67 โต30%
MAGURO ยิ้มรับเปิดเทรดวันแรกราคาหุ้นพุ่ง 44.65% แตะ 23 บาท จากราคา IPO ที่ 15.90 บาท วางเป้ารายได้ปี 67 โตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน กางแผนขยายสาขาใหม่ 11 แห่ง จากครึ่งแรกปีเปิดให้บริการแล้ว 3 สาขา เล็งออกแบรนด์ร้านอาหารใหม่เฉลี่ย 1 แบรนด์/ปี
นายเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยว่า ราคาเปิดทำการซื้อขายของหุ้น MAGURO ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกในวันนี้ (5 พ.ค.67) ตนค่อนข้างพอใจ ราคาปรับขึ้น มาที่ระดับ 23 บาท เพิ่มขึ้น 7.1 บาท หรือ 44.65% จากราคาไอพีโอ 15.90 บาท สะท้อนต่อกระแสการตอบรับดีของนักลงทุน ซึ่งตั้งแต่เปิดจองซื้อหุ้น IPO ขายหมดอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากบริษัทมีแผนการเติบโตที่ชัดเจน
แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,045 ล้านบาท โดยหลักๆ เป็นผลมาจากการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องของยอดขายสาขาเดิมที่มี รวมถึงรับรู้รายได้จากสาขาใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ ซึ่งบริษัทวางแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 11 สาขา โดย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 มีการเปิดสาขาใหม่ไปแล้ว 2 สาขา คาดว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 13-25 ล้านบาท/สาขา ขึ้นอยู่กับโลเคชั่น
โดยการขยายสาขาใหม่นั้น บริษัทจะมุ่งเน้นในเขตกทม.และปริมณฑล เป็นหลัก ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ กทม. บริษัทมองพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีศักยภาพ (CBD) ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ย่าน CBD 30% รอบนอก 70% แต่อย่างไรก็ดี ในฤดูฝนยอดขายอาจชะลอตัวลงกว่าช่วงปกติ เนื่องจากผู้บริโภคจะไม่ค่อยเดินทางออกไปทานข้าวนอกบ้าน ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจร้านอาหาร ทำให้ยังบอกไม่ได้ว่าในไตรมาส 2/2567 ยอดขายจะดีกว่ามากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2567 นี้
ในปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง มียอดผู้ติดตามบน Social Media มากกว่า 500,000 ราย และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิก (Membership) กว่า 145,000 ราย ซึ่งในปี 2566 สมาชิกดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากกว่า 54.36% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องของบริษัท
"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้คนรู้จัก MAGURO มากขึ้น ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO บางส่วนจะนำไปขยายแบรนด์สร้างความแข็งแกร่ง โดยมีแผนเพิ่มแบรนด์ใหม่เฉลี่ยอย่างน้อย 1 แบรนด์ต่อปี ส่วนค่าแรงที่ปรับขึ้นไม่กระทบเพราะเราจ่ายสูงอยู่แล้ว ต้นทุนแม้จะปรับขึ้นบริษัทก็รับมือได้ โดยที่ผ่านมามีการสั่งซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า และหาซัพพลายเออร์สำรอง มีการบริหารจัดการที่ดี สำหรับภาพรวมตลาดอาหารคาดว่าในปีนี้จะเติบโตได้ราว 10% ตามเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว และการกลับมาท่องเที่ยวของต่างชาติ"
ร้านอาหารญี่ปุ่น 2.5 หมื่นล้านฟื้น ‘มากุโระ’ ระดมทุนขยายสาขาเพิ่ม
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ MAGURO กล่าวว่า ราคาเปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธุรกิจร้านอาหารมากุโระเป็นที่รู้จัก ธุรกิจเข้าใจง่าย มีแผนเติบโต แผนขยายสาขา และแบรนด์ใหม่ อย่าง ฮิโตริ ชาบู ที่เพิ่งจะเปิดเทรนด์ใหม่จะเป็นตัวขับเคลื่อนของมากุโระ ซึ่ง ฮิโตริ ชาบู ที่เพิ่งเปิดปีกว่าๆ แต่คนรอคิวยาว บริษัทจึงมีแผนขยายสาขาหนุนการเติบโตในอนาคต
"เพื่อเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน Holistic Impact Pte. Ltd ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมที่ยังคงถือหุ้นอยู่ในบริษัทฯ พร้อมกับนักลงทุนสถาบันที่ดำเนินการซื้อ-ขายผ่านกระดาน Big Lot ในวันนี้ สมัครใจ Lockup หุ้นเป็นเวลา 3 เดือน และเมื่อนับรวมกับหุ้นที่ถูกติด Silent Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว จะมีหุ้นที่ถูกห้ามขายรวมเป็นจำนวน 72.97% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ทั้งนี้ ในการระดมทุนครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้บริษัทฯ มีแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"
ด้านผลการดำเนินงานใน ปี 2566 มีรายได้รวม 1,045.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.06% และมีกำไร 72.48 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 131.12% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ผลการดำเนินการในงวดไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 297.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.89% และมีกำไรสุทธิ 20.13 ล้านบาท เติบโต 3.52% จากงวดเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40.00% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่างๆ