ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง PCE เดินหน้าระดมทุนเข้า SET เสริมแกร่งธุรกิจ

07 มิ.ย. 2567 | 09:22 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2567 | 10:00 น.

PCE ยิ้ม ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง เดินหน้าระดมทุนเข้า SET เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบซัพพลายเชนครบวงจร พร้อมโชว์งบไตรมาสแรก มีรายได้กว่า 5 พันล้านบาทและกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE เปิดเผยว่า ล่าสุด ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือ นับหนึ่งไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) ของ PCE เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย PCE มีแผนที่จะเดินทางไปนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (Road Show) ทั้งในและต่างประเทศ ในช่วงไตรมาส 3 นี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจในธุรกิจของกลุ่ม PCE พร้อมทั้งแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบซัพพลายเชนครบวงจร ปัจจุบัน PCE มีทุนจดทะเบียน 2,750 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 2,000 ล้านบาท โดยเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน 750 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท

ซึ่งคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET หมวดธุรกิจ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร-AGRO (กลุ่มอุตสาหกรรม : ธุรกิจการเกษตร-AGRI) 

 

"เฮียหลี" วิเคราะห์ภัยแล้งทำราคาปาล์มร่วง เกษตรกรสูญรายได้ 2 พันล้าน/เดือน

PCE โชว์ศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจร จ่อระดมทุนครึ่งหลังปี67

นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนใน SET ครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับ PCE ในการต่อยอดธุรกิจพร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มครบวงจรในอนาคต

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนในกิจการอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (B100) เช่น โรงสกัดน้ำมันปาล์ม รวมถึงลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และควบคุมต้นทุน อีกทั้งเพื่อต่อยอดหรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ว่า บริษัทมีรายได้ 5,784.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 110.88 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายปีนี้มีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 2566 ที่มีรายได้ 24,722.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 330.50 ล้านบาท

อนึ่ง PCE ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจร ที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน (Supply Chain) โดยแบ่งได้เป็น

  1. กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่าย น้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ซึ่งรวมถึงการซื้อน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
  2. กลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ
  3. กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางรถ
  4. กลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ

ปัจจุบันบริษัทย่อยภายในกลุ่ม PCE ประกอบด้วย  

  • บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด (NBD) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ และน้ำมันพืชสำหรับการบริโภค ภายใต้ตราสินค้า “รินทิพย์” โดยมีถังเก็บน้ำมันปาล์มและน้ำมัน B100 ทั้งหมด 80 แทงค์สามารถจัดเก็บได้ปริมาณ 100,000 ตัน 
  • บริษัท ปาโก้เทรดดิ้ง จำกัด (PACO) ประกอบธุรกิจซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมล็ดในปาล์ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากปาล์ม โดยจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ  
  • บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด (PKM) ประกอบธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ ขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส มีพื้นที่ให้บริการกว่า 50,000 ตร.ม. และมีคลังน้ำมัน จำนวน 58 แทงค์ที่สามารถรองรับปริมาณการจัดเก็บได้ถึง 240,000 ตัน โดยมีท่าเทียบเรือทั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดฉะเชิงเทรา  
  • บริษัท เพชรศรีวิชัย จำกัด (PC) ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางบกภายในประเทศซึ่งมีรถให้บริการกว่า 150 คัน เพื่อขนส่งน้ำมันปาล์ม รวมถึงสินค้าแห้งและอื่นๆ  
  • บริษัท พี.ซี.มารีน (1992) จำกัด (PCM) ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีขนาดเรือบรรทุกของ 1,800 – 3,100 ตัน ซึ่งสามารถขนส่งได้ทั้งของแห้งและของเหลว รวม 13 ลำ สามารถขนส่งได้สูงสุดปีละกว่า 2,000,000 ตัน ทั้งของแห้งและของเหลว