ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง กลยุทธ์ตลาดหุ้นไทยฝ่าสถานการณ์โลก ในงานสัมมนาการลงทุนใหญ่ประจำปี Investment Forum 2024 : เจาะขุมทรัพย์ลงทุนยุคโลกเดือด จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2567 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นได้ โดยปัจจัยสนับสนุนหลักๆ เป็นผลมาจากการท่องเที่ยว การบริโภค เฮลธ์แคร์ และพลังงานทดแทน เป็นต้น
ส่วนหนึ่งคาดการณ์ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 งบประมาณภาครัฐจะทยอยเร่งออกมาได้ตามแผน หลังจากที่ในปี 2566 การเบิกจ่ายงบประมาณมีความล่าช้าไป ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร จากการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่จะเร่งออกมาในช่วงครึ่งหลังปีนี้เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น สอดคล้องกับการประเมินของ IMF ที่มองว่าเศรษฐกิจประเทศไทยมีโอกาสจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่ประเทศจากทั่วโลกที่ IMF จะมีมุมมองที่เป็นบวก
ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยมี macro stability ที่สามารถรองรับเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาได้ดี มีอัตราการเร่งตัวของเงินเฟ้อไม่มาก เมื่อเทียบกับตลาดในภูมิภาค รวมถึงตลาดประเทศหลักอื่นๆ และมีความสามารในการแข่งขันในเวทีระดับโลก โดยปัจจุบันหนี้สินภาครัฐอยู่ระดับที่ประมาณ 64% ต่ำกว่าเกณฑ์ 70% ทำให้ยังมีโอกาสในการกู้ยืมมาใช้ได้ในอนาคต มีเงินสำรองที่อยู่ระดับสูง อีกทั้งตราสารหนี้ของไทยอยู่ที่ระดับ Investment grade กว่า 93%
แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าประเทศไทยไม่มีผลิตภัณฑ์และผลิตผลที่ไม่เซ็กซี่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ไทยมีผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน อาทิ เฮลธ์แคร์ และภาคบริการ ที่มีศักยภาพและสามารถต่อยอดการเติบโตได้อีกมากในอนาคต ขณะเดียวกันอัตราการเร่งตัวของเงินเฟ้อประเทศไทยก็ไม่ได้มาก ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ระดับราว 1.5% อีกทั้งประเทศไทยยังคงมีการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ยังไม่สะท้อนต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน (EPS) ทั้งนี้ ผลประกอบการของ บจ. มีแนวโน้มดีขึ้นตามเศรษฐกิจ พร้อมโอกาสในการฟื้นตัวในหลายๆ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มี P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มองว่าเวลานี้เป็นจังหวะที่น่าสนใจ เพราะราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนต่อผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"มองว่าในตอนนี้เป็นโอกาสเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการลงทุนตลาดหุ้นไทย เพราะราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนต่อกำไรในอนาคต ไทยเรามีจุดแข็งหลายอย่างโดยเฉพาะในด้านของ Well-Being การท่องเที่ยวแนวโน้มเติบโตดี เชื่อว่าสิ้นปียอดนักท่องเที่ยวกลับมาใกล้เคียงช่วงก่อนวิกฤตโรคระบาด การแพทย์ไทยมีศักยภาพและยังพัฒนาไปได้อีกไกล ความเป็นมิตรของไทยจะเป็นแรงดึงดูการลงทุนจากต่างชาติในช่วงที่มีความกังวลด้านรัฐภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลก็ให้ความสำคัญ รวมถึงในเรื่องของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะหนุนให้เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวที่ดีมากขึ้น"ดร.ภากร กล่าว
แนวทางการลงทุนที่เศรษฐกิจไทยมีความโดดเด่น 7 ธีม และมองว่าเป็นจุดแข็งของตลาดหุ้นไทย ได้แก่
ทั้งนี้ ก็อาจต้องย้ำว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ทั้งในเรื่องความเสี่ยงจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopoliticle Risk), อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการเงิน เพราะถ้าหากดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่สูงสภาพคล่องในโลกก็อาจไม่มี, การทยอยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่ไม่สามารถประเมินได้