ก.ล.ต. เล็งออกเกณฑ์ใหม่ ดักทางผู้บริหารนำหุ้นค้ำประกันหนี้

28 ส.ค. 2567 | 07:40 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ส.ค. 2567 | 07:43 น.

"พรอนงค์ บุษราตระกูล" เตรียมออกประกาศแจ้งเตือนผู้ลงทุน กรณีผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นผู้บริหาร บจ. นำหุ้นไปวางค้ำประกันนอกตลาด คาดเกณฑ์บังคับเปิดเผยข้อมูลภายเริ่มต้นในปีนี้ มองกองทุนวายุภักษ์หนุนเม็ดเงินใหม่เข้าตลาดทุนไทยกว่า 1.5 แสนล้าน

ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยภายในงาน "Thailand Focus 2024" ว่า ทางสำนักงานก.ล.ต. จะร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมออกประกาศแจ้งเตือนผู้ลงทุน กรณีผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) นำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันนอกตลาด

ซึ่งมองว่าการทำธุรกรรมในลักษณะดังกล่าวมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ และอาจมีผลกระทบต่อราคาหุ้นและนักลงทุนได้ ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถออกประกาศเตือนได้ภายในเร็วๆ นี้ ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการศึกษาการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

โดยมีแนวคิดที่จะออกเป็นหลักเกณฑ์ของก.ล.ต. เพื่อให้ผู้ทำธุรกรรมในลักษณะนี้มีหน้าที่ต้องปฎิบัติตาม โดยไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ซึ่งหากหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ก็มีความคาดหวังว่าจะช่วยลดทอนการทำธุรกรรมในลักษณะดังกล่าวให้ลดลงได้

และทำให้นักลงทุนมีข้อมูลในการตั้งสินใจมากขึ้น ทั้งนี้ รายละเอียดของการออกหลักเกณฑ์ดังกล่าวนั้น เบื้องต้นจะต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นหรือเฮียริ่งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์ คือ ต้องการให้หลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้ทันภายในปี 2567 นี้

ในส่วนของความคืบหน้าของการเสนอขาย "กองทุนวายุภักษ์" นั้น มองว่ารูปแบบที่กระทรวงการคลังประสานงาน จะมีหน่วยลงทุนประเภท ก. และหน่วยลงทุนประเภท ข. สำหรับหน่วยลงทุน ก. จะแบ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ส่วนหน่วย ข. จะถือหน่วยโดยคลังและหน่วยงานรัฐ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลเพื่อไปยื่นไฟลิ่ง และคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินใหม่ได้ไม่น้อยกว่า 100,000-150,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินส่วนใหญ่จะลงไปในตลาดหุ้น ซึ่งนับว่าเป็นผลกระทบในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยด้วย ตลอดจนสามารถจะหนุนตลาดได้ในขณะที่รอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากมาตรการของรัฐบาลในช่วงต่อไป