"โอ้กะจู๋" เปิดขาย IPO หุ้น OKJ 23-25 ก.ย. 67 ราคา 6.70 บาท

22 ก.ย. 2567 | 04:51 น.
อัพเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2567 | 05:26 น.

"โอ้กะจู๋" เตรียมกดปุ่มเปิดจองซื้อหุ้น ไอพีโอ บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่(OKJ) วันแรก 23-25 ก.ย. 67 นี้ ราคา 6.70 บาท เช็กรายละเอียดที่นี่

ความคืบหน้าล่าสุด หลังได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โอ้กะจู๋-บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด(มหาชน) หรือ หุ้น OKJ เดินสายให้ข้อมูลนักลงทุน ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมทัน หวังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้ขยายสาขา เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

รายละเอียดการซื้อหุ้น IPO "โอ้กะจู๋"

  • เสนอขายหุ้น IPO ของ OKJ จำนวน 159 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 26.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ 
  • เตรียมเปิดให้จองซื้อ ในวันที่ 23-25 กันยายน 2567 
  • กำหนดราคาเสนอขายที่ 6.70 บาท/หุ้น 
  • เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประมาณวันที่ 4 ตุลาคม 2567 นี้
  • บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
  • บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO 

ภาพอินโฟ "โอ้กะจู๋"

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน

นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ

ปัจจุบัน บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม อีกทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ “Be Organic from Farm to Table” เน้นการปลูกผักสลัดแบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) และและคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภา

โดยแบ่งธุรกิจปัจจุบันเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  1. บริการและจำหน่ายอาหารภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทต่างๆ อาทิ สลัด สเต็ก สปาเก็ตตี้ อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำผักผลไม้
  2. ร้านอาหารประเภทจานด่วน (QSR) ภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll” จำหน่ายสลัด แร๊พสลัด แซนวิช และเมนูสุขภาพพร้อมหยิบ (Grab & Go) เพื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบได้
  3. ร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “Oh! Juice” ซึ่งต่อยอดจากเมนูน้ำผักออร์แกนิค และผลไม้ที่จำหน่ายในร้านโอ้กะจู๋


บริษัทมีกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ผ่าน 7 แนวทาง ได้แก่

  1. พัฒนาธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหารภายใต้แบรนด์ "โอ้กะจู๋" ที่เป็นธุรกิจหลักให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยการขยายสาขา เพิ่มรูปแบบร้านอาหารใหม่ๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าหมายขยายครบ 67 สาขา ภายในปี 2571
  2. สร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อให้เกิดความผูกพันกับแบรนด์ (Brand engagement) และความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand loyalty) ผ่านกลยุทธ์ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกเพิ่มเติม รวมถึงแผนการตลาดที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อทำให้เกิดการซื้อซ้ำบ่อยขึ้น
  3. พัฒนาธุรกิจ และแบรนด์ใหม่ๆ และขยายช่องทางการจำหน่าย โดยต่อยอดจากธุรกิจหลัก โดยในปีนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเริ่มธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll” และ “Oh! Juice” โดยมีเป้าหมายการขยายสาขาทั้ง 2 แบรนด์ รวมประมาณ 90 สาขา ภายในปี 2571 รวมถึงมีแผนพัฒนาแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
  4. เติบโตอย่างรวดเร็วร่วมกับ OR ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และนำสินค้าไปจำหน่ายในร้าน Café Amazon ทำให้มีโอกาสเข้าถึงเครือข่ายผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันของ OR จำนวนมาก ช่วยเพิ่มโอกาสให้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ในการทำธุรกิจ รวมถึงเพิ่มโอกาสขยายสาขาร้านอาหาร
  5. ต่อยอดและรักษาความเป็นผู้นำในการทำเกษตรอินทรีย์ และพัฒนาวิธีการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น พร้อมมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ วิถีธรรมชาติ วิถีที่ยั่งยืน
  6. พัฒนาเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มผลผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value chain) โดยมีแผนในการเพิ่มกำลังการผลิตและเพิ่มสายการผลิตสินค้าเพิ่มเติมที่ครัวกลางในกรุงเทพฯ
  7. แสวงหาโอกาสในการลงทุนและขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ช่วยพัฒนา Ecosystem และสร้างนวัตกรรมในการทำธุรกิจของบริษัทฯ ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และแผนกลยุทธ์

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น กว่า 75% จะใช้นำมาขยายสาขาใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงสาขาเดิม โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขา "โอ้กะจู๋" เพิ่มเฉลี่ยปีละ 6-8 สาขา, Ohkajhu Wrap & Roll เพิ่มเฉลี่ยปีละ 5 สาขา และ Oh! Juice เพิ่มเฉลี่ยปีละ 20-25% สาขา ในช่วง 3-5 ปีต่อจากนี้

ส่วนที่เหลืออีก 25% จะใช้รองรับการพัฒนาเทคโนโลยีในกระบวนการปลูกและผลิตผัก-ผลไม้ รวมถึงการวิจัยและพัฒนา (R&D) ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอด OKJ ในอนาคต

"เรามองอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นเมกะเทรนด์ พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปหันมาเลือกบริโภคอาหารที่ดีและเสริมสร้างสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้จะมาช่วยปลดล็อกให้กับธุรกิจและจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน"