"THANI" ชะลอปล่อยสินเชื่อใหม่ รถกระบะ-บรรทุก หลังเศรษฐกิจไม่เอื้อ

27 ก.ย. 2567 | 00:30 น.
อัพเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2567 | 00:42 น.

ยอดขายรถยนต์เดือนส.ค.หดตัว 24% จากความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อใหม่สถาบันการเงิน "วิรัตน์ ชินประพินพร" บิ๊กบอส THANI ชี้เศรษฐกิจช่วงที่เหลือปี 67 ยังชะลอตัว การให้สินเชื่อใหม่เป็นไปอย่างระมัดระวัง พร้อมคุมเข้ม NPL ไม่เกิน 3% หวั่งเงินบาทแข็งกระทบส่งออก-ท่องเที่ยว

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนยอดขายรถยนต์ในประเทศว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ยอดขายรถยนต์ในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 45,190 คัน ลดลง 24.98 % ส่วนตัวเลขยอดขายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 ทำได้ทั้งสิ้น 399,611 คัน ลดลง 23.85 % 

โดยปัจจัยที่มีผลกับยอดขายรถยนต์ในประเทศ เป็นผลมาจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการให้สินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูง โดยข้อมูลหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ ณ ไตรมาสสองของปีนี้ สูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7 % จากไตรมาสสองปีที่แล้วและเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำที 2.3%  ในไตรมาสสองของปีนี้

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยก่อนหน้านี้ว่า คาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลใหม่ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีมีนโยบายหลายข้อที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

ทั้งนโยบายการแจกเงินหนี่งหมื่นบาทเป็นเงินสด ซึ่งจำนวนเงินกว่าหนึ่งแสนล้านบาท การแก้ใขหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ เป็นต้น รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ก็ทันใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ด้วย และดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ก็เพิ่มขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 0.50 และอาจจะลดอีกครั้งในปีนี้

ฝั่งผู้ให้บริการสินเชื่อเช้าซื้อชั้นนำของไทย "นายวิรัตน์ ชินประพินพร" ประธานกรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมสินเชื่อในปี 2567 ยังคงมีทิศทางการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน

เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไมเอื้ออำนวยนัก ทำให้ไม่ใช่เพียงแค่สถาบันการเงิน หรือแบงก์ขนาดใหญ่เท่านั้นที่เข้มงวดยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ แต่ในฝั่งของ Non-bank เองก็เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน

ด้วยแนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่ขยับขึ้นสูง ทำให้ประเมินว่าด้วยรายได้ที่มีไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของประชาชน อาจมีความเสี่ยงในการค้างชำระหนี้ของลูกค้าพี่เพิ่มขึ้น การเรียกเก็บมีความท้าทายมากขึ้น และกดดันให้อาจต้องมีการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

THANI สินเชื่อเชื่อซื้อรถใหม่และมือสอง

ในปี 2567 เป้าหมายยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่จะคงไว้ที่ระดับประมาณ 18,000 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายทั้งปีนี้ที่วางไว้ 20,000 ล้านบาท และคงรักษาระดับพอร์ตสินเชื่อคงค้างไว้ที่ราว 50,000 ล้านบาท จากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 8,754 ล้านบาท และมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 49,486 ล้านบาท

ในส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ระดับ 3.41% คาดว่าทั้งปีนี้จะคงความสามารถในการควบคุมให้อยู่ในกรอบที่ไม่เกินระดับ 3% ขณะที่แนวโน้มยอดยึดรถในช่วงครึ่งหลังปีนี้คาดว่าจะปรับตัวลดลงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกปี เนื่องจากบริษัทพยายามหาหนทางในการช่วยเหลือลูกค้า ยืดระยะเวลาการยึดรถ รวมถึงปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้า

"ต้องยอมรับว่าอัตราการยึดรถคืนในปี 2567 นี้ สูงกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน 10-20% แต่เชื่อว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะดีขึ้น และเชื่อว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/67 จะพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว การให้สินเชื่อใหม่โดยเฉพาะส่วนรถบรรทุกหรือกระบะบรรทุก เรายังคงให้ความระมัดระวังอยู่ แต่ที่น่าเป็นกังวลที่สุด คือ การแข็งค่าของเงินบาท ที่อาจเป็นปัญหาในด้านการส่งออก ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้า รวมถึงการท่องเที่ยว ต่างชาติแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยได้น้อยลง"

มองว่าในช่วงที่เหลือของปี 2567 ก็มีปัจจัยบวกในเรื่องการขับเคลื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อของรัฐบาลชุดใหม่มาหนุน โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้การบริโภคและกำลงซื้อภายในประเทศดีขึ้น แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ยังประเมินไม่ได้ คงต้องจับตารอดูต่อไป

ดอกเบี้ยขาลงหนุน

ทั้งนี้ การเข้าสู่ช่วงวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงนั้น มองว่าจะเป็นอานิสงส์ในเชิงบวกต่อธุรกิจ ทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง แต่ก็ต้องรอดูว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีสัญญาณการลดดอกเบี้ยในปลายปีนี้หรือไม่ หากว่าการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้นในเดือนต.ค. ก็จะเป็นผลดีต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 นี้ทันที แต่หากเป็นเดือน ธ.ค. ผลก็จะไปออกในไตรมาส 1/2568

อย่างไรก็ตาม สินเชื่อที่คาดว่าในปี 2567 นี้มีแววที่จะโตได้ดี ได้แก่ สินเชื่อรถแท็กซี่ที่เป็นยานยนต์ไฟฟ้าจะทยอยเพิ่มมากขึ้น เพราะลูกค้าเดิมมีการเปลี่ยนรถตามอายุการใช้งาน โดยยอดการปล่อนสินเชื่อใหม่นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีมากว่า 100 คันแล้ว ด้านสินเชื่อรถบิ๊กไบค์ในปีนี้นับว่าก็ยังมีการเติบโตที่ทรงตัว

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมขยายสินเชื่อออกไปยังรถบิ๊กไบค์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นรถบิ๊กไบค์ในฝั่งยุโรป ส่วนสินเชื่อลักซ์ชัวรีคาร์ปัจจุบันยังไม่มีปัญหา ส่วนแผนการแตกไลน์สินเชื่อประเภทใหม่ๆ ในปี 2567 นั้น อาจต้องชะลอไปก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีมาเพิ่มเพียงแต่ในเวลานี้อาจไม่เหมาะสม ระหว่างนี้ก็ทำการศึกษาและรอโอกาสเหมาะๆ อยู่

สำหรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อของบริษัทในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มรถบรรทุก โดยมีสัดส่วนที่มากกว่า 70% รองลงมา คือ ลักซ์ชัวรีคาร์ ประมาณ 23% ขณะที่สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ คิดเป็นสัดส่วนราว 2% รถแท็กซี่ 1% และรถยนต์นั่งโดยสาร อื่นๆ ประมาณ 4% เป็นต้น