บล.ลิเบอเรเตอร์ ชี้วันนี้ 27 ก.ย.67 SET Index ฟื้นตัว กรอบ 1,450-1,470 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จํากัด เปิดเผยว่า มองทิศทางการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ 27 ก.ย.67 คาด SET Index “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1,450-1,470 จุด จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด ช่วยกระตุ้นแรงเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น ผสานกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในจากมาตรการภาครัฐฯเป็นปัจจัยเสริม ดังนั้น ยังมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ที่แนวโน้มกำไรในช่วงไตรมาส 3/67 ขยายตัวดี 

หลังจากที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวานนี้ (26 ก.ย.67) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นำโดย

1. ไตรมาส 2/67 US GDP รายงานครั้งที่ 3 ที่ระดับ เพิ่มขึ้น 3.0% จากไตรมาสก่อน ทรงตัวกับการรายงานครั้งที่ 2 แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ +2.9% จากไตรมาสก่อน
2. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ 2.18 แสนราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ 2.22 แสนราย และต่ำกว่าคาดที่ 2.23 แสนราย สะท้อนภาพรวมภาคแรงงานมีสัญญาณที่ดีขึ้น

จากตัวเลข US GDP และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจ US ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ช่วยกระตุ้นแรงเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยวานนี้ดัชนี S&P500 ยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ คาดจะส่งจิตวิทยาเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นด้วย

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจคืนนี้ แนะติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. โดย US PCE คาด โต 2.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ลดลงจาก 2.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วน US Core PCE คาดที่ +2.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ขยับขึ้นเล็กน้อยจาก +2.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน

ด้านปัจจัยในประเทศ คาด SET อยู่ในช่วงสะสมกำลัง เพื่อไปต่อ ดังนั้น จังหวะ SET ย่อตัวมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าทยอยสะสม โดยเน้นหุ้นอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก เช่น กลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, นิคมอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล, ไฟแนนซ์ เป็นต้น

ปัจจัยที่ต้องจับตา

27 ก.ย.      เงินเฟ้อ US Core PCE
                 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน
                 CPI ของญี่ปุ่น

หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ

• BE8 คาดอุตสาหกรรม Digital Transformation จะฟื้นตัวขึ้นดีในช่วงครึ่งหลังปี 67 หลังจากการลงทุนภาคเอกชน และโครงการภาครัฐฯกลับมามากยิ่งขึ้น ช่วยหนุนให้ Backlog กลับมาเด่น อประกอบกับราคาหุ้นที่ช่วงที่ผ่านมาสะท้อนกำไรที่อ่อนแอในปี 67 แล้ว ขณะที่คาดกำไรปี 68 ที่ 240 ล้านบาท โต 45% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน กลับมาใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิมในปี 66 ถือเป็นจังหวะที่น่าทยอยสะสม โปยประเมินราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.70 บาท
• WHA ยังมีมุมมองเชิงบวกจากการลงทุนในไทยปี 67 ที่มีทิศทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับมูลค่า FDI ปี 66 ที่เติบโตกว่า 73% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยนักลงทุนจีนเข้ามาสูงสุด จากอุตสาหกรรม EV อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าปี 67 นี้ ธุรกิจโลจิสติกเพิ่มอีก 2 แสน ตร.ม. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม จะขยายเพิ่มอีก 2,070 ไร่ รวมทั้งจะมีการขยายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์รวม 2.13 แสน ตร.ม.
• SGC คาดกำไรครึ่งปีหลังนี้จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเติบโตของโครงการ SG Finance+ ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อมือถือที่สามารถล็อกได้หากผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้ NPL Ratio อยู่ในระดับต่ำ ผสานกับการปลดล็อกการเพิ่มทุน จะหนุนให้ SGC ผ่อนคลายดอกเบี้ยจ่าย และมีเม็ดเงินเพิ่มเติมในการปล่อยสินเชื่อ หนุนปี 68 กำไรจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ทางฝ่าย ประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.96 บาท
• BH คาดกำไรไตรมาส 3/67 ยังคงเติบโตโดดเด่น จากการเข้าสู่ช่วง High Season โดยคาดผู้ป่วยจากตะวันออกกลางยังปรับตัวขึ้นดี ขณะที่ประเด็นของคูเวต คาด BH มีโอกาสถูกเลือกเป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลในไทยที่รัฐบาลคูเวตสนับสนุน สำหรับภาพระยะกลาง คาดได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ในภูเก็ตในช่วงปี 68

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ 27 ก.ย.67 ดัชนีเปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,453.98 จุด โดย ณ เวลา 10.41 อยู่ที่ระดับ 1,457.55 จุด เพิ่มขึ้น 2.52 จุด เปลี่ยนแปลง 0.17% ในระหว่างเปิดตลาดภาคเช้านี้ดัชนีดีดตัวขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,458.29 จุด และย่อตัวลงทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,449.35 จุด มีมูลค่าการซื้อขายที่ 15,552.12 ล้านบาท