นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์ 1 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “OKJ” ในวันที่ 4 ตุลาคม 2567
บริษัทประกอบธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้คอนเซ็ปท์ “Be Organic from Farm to Table” รวมถึงบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ โดยเน้นการปลูกผัก แบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) และนำเสนออาหารและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบหลักที่เป็นอินทรีย์ที่มีคุณภาพ
โดยมีธุรกิจหลักคือธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหารภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ซึ่งมีช่องทางจำหน่ายทั้งในรูปแบบร้านอาหาร Full-service การจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพผ่าน Delivery and Kiosk การจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารว่างและอาหารเพื่อสุขภาพผ่าน Café Amazon และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทผัก ผลไม้ สลัดพร้อมทานในซุปเปอร์มาร์เก็ต
นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกิจอาหารจานด่วนภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll” และ ธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “Oh! Juice” อีกด้วย
OKJ มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 304.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท บริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวนรวม 159 ล้านหุ้น โดยได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 23 – 25 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 6.70 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 1,065.30 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO เท่ากับ 4,080.30 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 24.13 เท่า พิจารณาจากกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนย้อนหลังซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 169.08 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังเสนอขายซึ่งเท่ากับ 609 ล้านหุ้น คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (Fully Diluted EPS) เท่ากับ 0.28 บาท
โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในฐานะ “King of Organic Salad” ในประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “เรามุ่งมั่นเดินบนวิถีอินทรีย์ที่ดีต่อตัวเรา และสังคม” ผ่านการส่งมอบผักออร์แกนิคจากฟาร์ม คัดสรรวัตถุดิบปราศจากสารเคมี นำเสนอผ่านประสบการณ์มื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน
ซึ่งการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนของบริษัท และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป
OKJ มีผู้ถือหุ้นหลักภายหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มผู้ก่อตั้ง คือ
ทั้งนี้ ณ วันแรกที่หุ้น OKJ เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด จะซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ก่อตั้ง 3 ท่าน ได้แก่ นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล นายจิรายุทธ ภูวพูนผล และ นายวรเดช สุชัยบุญศิริ บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) จำนวนรวม 31.8 ล้านหุ้น หรือ 5.2% เพื่อให้กลุ่ม OR รักษาสัดส่วนการถือหุ้นที่ 20% ภายหลังการ IPO โดยภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และการซื้อขายหุ้น Big Lot ดังกล่าว กลุ่มผู้ก่อตั้งจะถือหุ้นในสัดส่วน 53.9%
อย่างไรก็ตาม OKJ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ การจ่ายเงินปันผลอาจน้อยกว่าอัตราข้างต้น โดยคำนึงถึงปัจจัยและความเหมาะสมอื่นๆ