ในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในการเลือกลงทุนในหุ้นอาจจะมีความเสี่ยงหากเล่นไปตามกระแสหรือสถานการณ์ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นไทยหลายบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงจากการลงทุนซื้อความหวังในอนาคตไปมากแล้ว และมีความเสี่ยงที่ราคาหุ้นอาจลดลงหากความหวังที่วางไว้ไม่เป็นไปตามคาดการณ์
แต่ก็ใช่ว่าจะไร้สิ้นทางออกไปเสียทีเดียว เพราะทางเลือกของการลงทุนยังมีอยู่ การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตไปลงทุนในหุ้นระยะกลางถึงยาว อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยได้ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่มีการจ่าย "เงินปันผล" ที่สูงยังเป็นที่น่าสนใจ และดูเหมือนว่าจะกลับมาอยู่ในโฟกัสของนักลงทุนอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งหนึ่งในกลุ่มที่มีอัตราการจ่ายปันผลที่สูงและมีการอย่างเติบโตที่มีเสถียรภาพมาโดยตลอด คงหนีหุ้นกลุ่มแบงก์ไปไม่ได้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วในระดับหนึ่งแล้ว แต่ในปัจจุบันราคาก็ยังไม่ได้แพงมาก และแม้ว่าผลการดำเนินงานอาจไม่ได้ขยายตัวโดดเด่นเมื่อเทียบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอื่นๆ
โดย นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ให้ความคิดเห็นว่า กลุ่มแบงก์ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ เพราะมีการจ่ายปันผลที่ค่อนข้างสูงทั้งแบงก์เล็กและใหญ่ และจ่ายสูงกว่าตลาด ด้วยภาวะดอกเบี้ยที่เป็นขาลงคนไปหาหน้าหุ้นที่ Lock Yield สูงๆ
"แม้ว่านโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจทำให้กลุ่มแบงก์จะบาดเจ็บจากการลดลงของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ซึ่งมีผลกระทบต่อมาร์จิ้น แต่แบงก์ก็ยังมีความน่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ตอบโจทย์เงื่อนไขของกองทุนรวมวายุภักษ์ ที่ต้องการหุ้นมีแนวโน้มธุรกิจที่ดีและให้ปันผลสูง"
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าด้วยนโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ของ กนง. มาสู่ 2.25% ทำให้เป็นที่กังวลว่าหลังจากนี้ทางธนาคารพาณิชย์จะได้รับผลกระทบทำให้ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวลดลงไปด้วย โดยนับตั้งแต่ 8 มิ.ย.65 ต่อเนื่องมาจนถึง 7 ก.พ.67 กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่องจากระดับ 0.50% มาสู่จุดสูงสุดที่ 2.50%
ทำให้ในช่วงปี 65-66 และต่อเนื่องมาจนถึงกลางปี 67 ดอกเบี้ยไทยจึงเป็นวัฏจักรขาขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อ NIM และผลการดำเนินงานของกลุ่มแบงก์ ดังนั้น ทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ กำไรสุทธิ และกำไรสะสม จึงเป็นส่วนประกอบที่จะสะท้อนถึงผลการดำเนินงานและการจ่ายปันผลของหุ้นแบงก์
จากการเก็บสถิติผลประกอบการหุ้นกลุ่มแบงก์ ที่แบ่งตามการประเมินของ Consensus จำนวน 7 แบงก์หลักที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกอบด้วย KBANK SCB KTB BBL KKP TTB และ BAY โดยเรียงลำดับจากขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ดังนี้
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB
- Market Cap. : 370,381.80 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 107,865.23 ล้านบาท และปี 66 ที่ 124,628.42 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 อยู่ที่ 3.28% และปี 66 ที่ 3.81%
- กำไรสุทธิ : ปี 65 ที่ 37,546.01 ล้านบาท และปี 66 ที่ 43,521.33 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 65 ที่ 394,586.69 ล้านบาท และปี 66 ที่ 412,558.57 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 64,336.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,603.05 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 59,733.79 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 3.93% เพิ่มขึ้นเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 3.60%
- กำไรสุทธิ : 21,295.36 ล้านบาท ลดลง 1,568.14 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 22,863.50 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 407,655.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,602.43 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 400,052.63 ล้านบาท
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK
- Market Cap. : 358,953.13 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 64 ที่ 119,390.49 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 132,998.36 ล้านบาท และปี 66 ที่ 148,443.95 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 3.40% และปี 66 ที่ 3.73%
- กำไรสุทธิ : ปี 64 ที่ 38,052.72 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 35,769.49 ล้านบาท และปี 66 ที่ 42,405.04 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 64 ที่ 395,813.31 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 425,034.59 ล้านบาท และ ปี 66 ที่ 457,372.91 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 75,995.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,419.88 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 71,576.07 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 3.84% เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 3.57%
- กำไรสุทธิ : 26,138.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,403.31 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 21,735.33 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 469,281.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31,341.09 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 437,940.38 ล้านบาท
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
- Market Cap. : 300,485.32 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 64 ที่ 83,371.81 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 90,404.65 ล้านบาท และปี 66 ที่ 113,419.34 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 2.68% และปี 66 ที่ 3.30%
- กำไรสุทธิ : ปี 64 ที่ 21,588.29 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 33,697.74 ล้านบาท และปี 66 ที่ 36,615.91 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 64 ที่ 237,347.45 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 266,219.04 ล้านบาท และปี 66 ที่ 294,032.16 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 59,617.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,226.94 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 53,390.09 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 3.47% จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 2.97%
- กำไรสุทธิ : 22,273.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,050.80 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 20,222.79 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 304,126.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,345.23 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 276,781.37 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL
- Market Cap. : 293,961.81 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 64 ที่ 82,156.06 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 102,223.27 ล้านบาท และปี 66 ที่ 130,860.31 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 2.45% และปี 66 ที่ 3.06%
- กำไรสุทธิ : ปี 64 ที่ 26,507.04 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 29,305.59 ล้านบาท และปี 66 ที่ 41,635.52 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 64 ที่ 492,727.07 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 505,345.98 ล้านบาท และปี 66 ที่ 528,974.77 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 130,316.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38,873.9 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 91,443.01 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 3.16% เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 2.81%
- กำไรสุทธิ : 22,330.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 907.67 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน 21,422.81 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 545,331.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24,719.9 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 520,613.00 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY
- Market Cap. : 193,088.75 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 64 ที่ 77,980.09 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 105,428.25 ล้านบาท และปี 66 ที่ 139,250.87 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 3.43% และปี 66 ที่ 3.88%
- กำไรสุทธิ : ปี 64 ที่ 33,794.19 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 30,712.99 ล้านบาท และปี 66 ที่ 32,929.52 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 64 ที่ 186,779.95 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 211,895.52 ล้านบาท และปี 66 ที่ 238,338.49 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 55,593.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,104.57 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 44,489.20 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 4.27% เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 3.49%
- กำไรสุทธิ : 15,751.54 ล้านบาท ลดลง 1,353.05 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 17,104.59 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 250,668.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24,963.55 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 225,705.23 ล้านบาท
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB
- Market Cap. : 178,244.58 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 64 ที่ 50,999.77 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 51,616.92 ล้านบาท และปี 66 ที่ 57,207.42 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 3.03% และปี 66 ที่ 3.30%
- กำไรสุทธิ : ปี 64 ที่ 10,474.05 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 14,195.19 ล้านบาท และปี 66 ที่ 18,462.18 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 64 ที่ 70,525.73 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 79,253.23 ล้านบาท และปี 66 ที่ 87,991.48 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 28,581.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 986.71 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนมรา 27,594.71 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 3.39% เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 3.14%
- กำไรสุทธิ : 10,689.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,828.46 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 8,860.80 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 93,400.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,332.41 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 83,068.23 ล้านบาท
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP
- Market Cap. : 44,454.93 ล้านบาท
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 64 ที่ 15,700.64 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 19,081.35 ล้านบาท และปี 66 ที่ 22,293.83 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : ปี 65 ที่ 4.37% และปี 66 ที่ 4.55%
- กำไรสุทธิ : ปี 64 ที่ 6,318.05 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 7,602.10 ล้านบาท และปี 66 ที่ 5,443.40 ล้านบาท
- กำไรสะสม : ปี 64 ที่ 33,507.90 ล้านบาท, ปี 65 ที่ 37,989.78 ล้านบาท และปี 66 ที่ 41,162.02 ล้านบาท
ผลงาน 6 เดือนแรกปี 67
- รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 10,261.20 ล้านบาท ลดลง 483.18 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 10,744.38 ล้านบาท
- อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ : 4.47% เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 4.46%
- กำไรสุทธิ : 2,274.81 ล้านบาท ลดลง 1,218.35 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 3,493.16 ล้านบาท
- กำไรสะสม : 41,953.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,669.14 ล้านบาท จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 40,284.67 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการจ่ายเงินปันผลของหุ้นกลุ่มแบงก์ 7 บริษัท อิงตามผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ (Consensus) พบว่า หุ้นแบงก์ที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 67 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ SCB ซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง รวมจำนวน 9.84 บาท เพิ่มขึ้น 2.15 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 27.95% จากปีก่อนที่จ่ายเงินปันผลที่ 7.69 บาท
รองลงมา คือ KBANK โดยในปีนี้มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 2 ครั้ง จำนวนรวม 7.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 87.5% จากปีก่อนที่มีการจ่ายปันผลรวมที่ 4.00 บาท และ BBL ที่ปีนี้จ่ายปันผลไปทั้งหมด 2 ครั้ง จำนวนรวม 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 40% จากปีก่อนที่จ่ายปันผลไป 5.00 บาท
ในขณะที่ TTB มีการจ่ายปันผลที่น้อยที่สุดในบรรดา 7 แบงก์ โดยในปีนี้มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 2 ครั้ง จำนวนรวม 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.017 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 16.50% จากปีก่อนที่มีการจ่ายปันผลไปทั้งสิ้น 0.103 บาท
ปันผลหุ้นแบงก์
SCB
เงินปันผล : 9.84 บาท
รอบผลประกอบการ : 1 ม.ค.-31ธ.ค.66 (7.84 บาท)
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสุทธิ และปันผลจากกำไรสะสม (2.00 บาท)
ราคาหุ้น : 110.00 บาท
P/E : 8.79 เท่า
KBANK
เงินปันผล : 7.50 บาท
รอบผลประกอบการ : -
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสะสม
ราคาหุ้น : 151.50 บาท
P/E : 7.64 เท่า
BBL
เงินปันผล : 7.00 บาท
รอบผลประกอบการ : -
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสะสม
ราคาหุ้น : 154.00 บาท
P/E : 6.89 เท่า
KKP
เงินปันผล : 3.00 บาท
รอบผลประกอบการ : 1 ม.ค.-31 ธ.ค.66 (1.75 บาท) และ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.67 (1.25 บาท)
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสุทธิ
ราคาหุ้น : 52.50 บาท
P/E : 10.58 เท่า
KTB
เงินปันผล : 0.868 บาท
รอบผลประกอบการ : -
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสะสม
ราคาหุ้น : 21.50 บาท
P/E : 7.85 เท่า
BAY
เงินปันผล : 0.85 บาท
รอบผลประกอบการ : -
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสะสม
ราคาหุ้น : 26.25 บาท
P/E : 6.29 เท่า
TTB
เงินปันผล : 0.12 บาท
รอบผลประกอบการ : 1 ม.ค.-31ธ.ค.66 (0.055 บาท) และ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.67 (0.065 บาท)
ที่มาของเงินปันผล : ปันผลจากกำไรสุทธิ
ราคาหุ้น : 1.83 บาท
P/E : 9.07 เท่า