แนวคิด “Cash is King” ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่เศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในวิกฤตการเงินโลกปี 2008 ที่นักธุรกิจและนักลงทุนจำนวนมาก รวมถึง Warren Buffett นักลงทุนชื่อดังจาก Berkshire Hathaway เน้นย้ำถึงความสำคัญของการถือครองเงินสดในช่วงตลาดผันผวน เพราะเงินสดมอบ “อำนาจ” ให้นักลงทุนสามารถคว้าโอกาสที่เกิดขึ้นได้
สำหรับ Buffett การถือครองเงินสดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนั้นสำคัญ เพราะหลายบริษัทต้องการเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องจากรายได้ที่ลดลงหรือค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทำให้ราคาหุ้นตกลงต่ำกว่าความเป็นจริง นักลงทุนที่มีเงินสดจึงสามารถเข้าซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ได้ในราคาที่ต่ำ นอกจากนี้ เงินสดยังช่วยให้คุณไม่ต้องเร่งขายสินทรัพย์ในช่วงตลาดตกต่ำ รอจนสถานการณ์ดีขึ้นจึงค่อยลงทุน
Buffett เชื่อว่าการมีเงินสดในช่วงวิกฤตไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุน แต่ยังเป็นโอกาสให้คุณซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว คำกล่าวที่ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว” จึงสะท้อนถึงความคิดนี้ได้อย่างดี
ตรงข้ามกับ Buffett, Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มองว่า “Cash is Trash” โดย Dalio ชี้ว่าการถือครองเงินสดในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำและเงินเฟ้อสูงเป็นการสูญเสียมูลค่า
Dalio อธิบายว่าเมื่อดอกเบี้ยต่ำ เงินสดไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ ตรงข้ามกับการลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโต นอกจากนี้ เงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้มูลค่าของเงินสดลดลง ซึ่งหมายความว่าเงินสดจำนวนเดียวกันซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลงในอนาคต การถือครองเงินสดในระยะยาวจึงมีความเสี่ยง
Dalio แนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เช่น ทองคำ หรือสินทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้ตามเศรษฐกิจ
ทั้งสองแนวคิดขัดแย้งกัน แต่มีเหตุผลที่น่าสนใจในบริบทต่าง ๆ Buffett ยกย่องการถือเงินสดในช่วงวิกฤตเพราะสามารถสร้างโอกาสในการลงทุน ในขณะที่ Dalio มองว่าเงินสดไม่สามารถสร้างผลตอบแทนและเสี่ยงต่อการเสื่อมมูลค่าในยุคเงินเฟ้อสูง
การเลือกแนวคิดใดขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายทางการเงินของคุณ ในช่วงที่ตลาดผันผวนมาก การถือครองเงินสดตามแนวคิด “Cash is King” อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดี คุณสามารถรอจังหวะซื้อสินทรัพย์ราคาต่ำได้
แต่หากเศรษฐกิจมีเสถียรภาพและอัตราเงินเฟ้อสูง แนวคิด “Cash is Trash” ของ Dalio อาจเหมาะสมกว่า คุณควรหาช่องทางลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้มากกว่าเงินสด
ท้ายที่สุด ไม่มีแนวคิดใดถูกหรือผิดเสมอไป การตัดสินใจว่าควรถือเงินสดหรือไม่ขึ้นอยู่กับบริบททางเศรษฐกิจและเป้าหมายการเงินของคุณ การปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นและลดความเสี่ยงในการถือครองเงินสดเมื่อไม่เหมาะสม