TMILL รับราคาแป้งสาลีหดตัว ชี้สินค้าจีน-เวียดนามฉุด มองปี 68 ผลงานพ้นจุดต่ำ

06 พ.ย. 2567 | 23:00 น.

TMILL รับปี 67 ผลงานอาจไม่เทียบเท่าปีก่อน หลังแป้งข้าวสาลีนำเข้าจากจีน-เวียดนาม สร้างความปั่นป่วนและฉุดราคาตลาดไทย สร้างการแข่งขันทางราคาที่รุนแรงให้ผู้ประกอบการไทย หวังรัฐฯ เข้าดูแล มองปี 68 ผลงานพ้นจุดต่ำสุด

นางแววตา กุลโชตธาดา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 67 คาดว่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น จากความต้องการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น

ประกอบกับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็คาดว่าจะเข้ามาเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนยอดขายในไตรมาส 4/67 ไว้ได้ แต่อย่างไรก็ดีแม้ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ภาพรวมทั้งปี 67 อาจทรงตัวหรือลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,872.50 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ทำได้ที่ 844.90 ล้านบาท

ต้องยอมรับว่าในปี 67 เป็นอีกปีที่ค่อนข้างมีความท้าทายต่อธุรกิจ ทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกินในประเทศที่อาจยังทำได้ไม่เต็มที่นัก กำลังซื้อที่ชะลอตัว แนวโน้มการแข่งของอุตสาหกรรมที่ยังคงรุนแรง โดยเฉพาะการเข้ามาของสินค้าแป้งสาลีจากต่างประเทศ

ทำให้ไม่ใช่เพียง TMILL เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ในช่วงที่ผ่านมาผู้ผลิตแป้งสาลีในประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาการแข่งขันทางราคาที่ค่อนข้างดุเดือด ผลิตสินค้าแป้งสาลีที่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งจีนและเวียดนาม มีต้นทุนที่ถูกกว่ามาก ทำให้บริษัทเองก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดราคาลงเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้

"จากการที่ไทยเปิดประตูกว้างต้อนรับสินค้าจากต่างประเทศ โดยที่ไม่ได้มีการตั้งภาษีสินค้านำเข้าไว้เลย ทำให้การเข้ามาของสินค้าต่างประเทศอาจเป็นเหมือนดาบสองคมฆ่าผู้ประกอบการไทยให้ล้ม สิ่งที่อยากเสนอแนะภาครัฐฯ ในตอนนี้ ก็คงเป็นเรื่องการจัดระเบียนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้มข้นมากขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือก แต่ก็ให้ผู้ประกอบการไทยได้อยู่รอดต่อไปด้วย"

ในขณะที่ต้นทุนข้าวสาลีคงคลัง (สต๊อก) มีส่วนหนึ่งที่ถูกจัดซื้อเข้ามารองรับการผลิตในช่วงกลางปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาข้าวสาลีอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบบางส่วนอยู่ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน บริษัทจึงทำได้เพียงพยายามบริหารจัดการกับวัตถุดิบที่มีต้นทุนสูงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด

ส่วนราคาข้าวสาลีในปัจจุบันมีการปรับตัวลดลงมาได้แล้วกว่า 10% จากเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน มองว่ากราฟราคาข้าวสาลีตอนนี้อยู่ในระดับที่ต่ำ และมีแนวโน้มอยู่ในระบนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยในปีก่อนที่ราคาข้าวสาลีปรับขึ้นสูงเป็นผลมาจากการขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่มีผลต่อราคาข้าวสาลีอีกแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับกลยุทธ์เชิงรุกใหม่ โดยการขยายตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีฐานลูกค้าในภาคกลางเป็นหลัก มองว่าการขยายตลาดจะเป็นการกระจายความเสี่ยงของการกระจุกตัวของคำสั่งซื้อ อีกทั้งเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็มีแผนในการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับแป้งใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้า ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น และยังคงมุ่งเน้นในกลุ่มสินค้าที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ลูกค้าต่างจังหวัดเข้าถึงได้

สำหรับแนวโน้มปี 68 เชื่อว่าจะเห็นภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ มองว่าจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ของภาครัฐ  มีส่วนช่วยผลักดัน ความต้อการบริโภค และอัตราการจับจ่ายใช้สอยสูงขึ้น การท่องเที่ยวมีการเติบโตที่มากขึ้น ส่งอานิสงส์เชิงบวกต่อยอดขายของบริษัท

อนึ่ง TMILL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี ได้แก่ แป้งบะหมี่สด  แป้งขนมปัง  แป้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แป้งบิสกิต แป้งอเนกประสงค์  แป้งอาหารสัตว์ เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง โดยเป็นการ Spin Off มาจาก TSTE เเละมีโรงงานโม่แป้งสาลีรายใหญ่และมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ