วันนี้ 12 พฤศจิกายน 2567 นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือTKC เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2567 มั่นใจว่าเติบโตมากขึ้น เป็นผลจากงบประมาณภาครัฐนำออกมาใช้ในโครงการต่างๆ ทางบริษัทฯวางเป้าหมายกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากลูกค้าที่เป็นธุรกิจหลัก หรือ Core Business และ New Business จาก 8 กลุ่มธุรกิจของบริษัท
นายสยาม กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่นครอบคลุมทั้งด้านโทรคมนาคมและไอซีที ต่อยอดธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต เช่น ระบบอัจฉริยะหรือ Smart Solutions เน้น ไปที่โรงพยาบาลอัจฉริยะ,เกษตรอัจฉริยะ,การขนส่งอัจฉริยะ,ไซเบอร์ซีเคียวริตี้,สมาร์ตเลิร์นนิ่ง,สมาร์ตแพลตฟอร์ม บริษัทเล็งเห็นเป็นโอกาสสร้างการเติบโตใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีไอโอทีหรือInternet of Thingsร่วมกับการสร้างออกแบบเน็ตเวิร์กและเซิร์ฟเวอร์มาเสริมสร้าง ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพในธุรกิจด้านต่างๆ ในขณะนี้บริษัทเซ็นสัญญารับงานกับลูกค้าบางกลุ่มแล้ว
“ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัททีเคซีมีงานโครงการใหญ่ๆ ที่จะลงทุนเยอะสุดในกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในภาคสื่อสารโทรคมนาคมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัททีเคซี ส่วนธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นสมาร์ตต่างๆ เช่น Smart Hospital, Smart Farming, Smart Logistics ทางบริษัทฯคาดหวังจะได้งานโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ อย่างเช่น คลาวด์ จะเป็นการยกระดับนโยบายของรัฐบาล สู่ Cloud First Policy หรือการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก คาดว่าจะออกมาในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ และปีหน้า ถือเป็นโอกาสของบริษัททีเคซี
นายสยาม ยังกล่าวถึงมูลค่างานในมือหรือแบ็คล็อกว่า ทีเคซีมีแบ็คล็อกประมาณ 2,300ล้านบาท คาดว่าจะรับรายได้ปีนี้ประมาณ 30เปอร์เซ็นต์โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี จะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัททีเคซีมีความเชี่ยวชาญ และได้วางเป้าหมายอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตแบ็กล็อกประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ของการเข้าร่วมประมูล
นายสยาม กล่าวอีกว่า ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ากำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากธุรกิจหลักด้านโทรคมนาคมและไอซีทีที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 5% จากรายได้ทั้งหมด และในปีถัดไปจะเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก ไปอีก 5 ปีต่อจากนี้ โดยมองว่าในปี 2567 จะได้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้เพิ่มเฉลี่ยอย่างน้อยปีละ 7-10% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ประมาณ 35% ของพอร์ตรายได้รวม
สำหรับผลประกอบการ TKC ในงวดไตรมาส 3 ปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 51.51 ล้านบาท ลดลง 30.24% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 73.84 ล้านบาท มีรายได้รวม 458.17 ล้านบาท ลดลง 51.46% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 943.96 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2566 บริษัทรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ และโครงการที่เริ่มดำเนินการและส่งมอบงานในระหว่างปี
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 38.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ในไตรมาส 4/2566