เทียบฟอร์ม บจ. ไตรมาส 3/67 กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กำไรร่วงหนักยกกลุ่ม

21 พ.ย. 2567 | 00:00 น.

ปิดจบรอบประกาศงบ บจ. ในไตรมาส 3/67 และ 9 เดือนปี 67 รวม 901 หลักทรัพย์ ทำกำไร 2.08 แสนล้าน และ 7.34 แสนล้าน หดตัว 24.6% และ 5.6% ตามลำดับ พบกลุ่มเทคโนโลยี การบริการ และการเงิน การเติบโตโดดเด่น สวนทางกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะปิโตรเคมีและเหล็ก หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ

สิ้นสุดรอบของการประกาศผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/67 ไปแล้วเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน (15 พ.ย.67) ซึ่งหลายโบรกออกมาลงความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า "น่าผิดหวัง" ด้วยไตรมาส 3 ตามปกติของทุกปีจะเป็นโลวซีซันของธุรกิจอยู่แล้ว ตามปัจจัยฤดูกาล อีกทั้งในปีนี้มีเหตุการณ์น้ำท่วมยิ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการจับจ่ายใช้สอย

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการรวบรวมสถิติกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งงวดไตรมาส 3/67 และ 9 เดือนแรกของปี 67 พบว่า หลักทรัพย์ในตลาด SET และ mai รวมจำนวน 901 หลักทรัพย์ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 208,180 ล้านบาท

ซึ่งด้วยเป็นโลวซีซันของหลายธุรกิจ ทั้งด้วยปัจจัยฤดูกาล และในปีนี้มีเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ ทำให้ปรับตัวลดลงกว่า 19.0% จากไตรมาสก่อน และหดตัวลงกว่า 24.6% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 276,045 ล้านบาท ในขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 67 เหล่า บจ. มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 734,999 ล้านบาท ลดลง 5.6% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 778,199 ล้านบาท

เทียบฟอร์มกำไรไตรมาส 3/67 บจ. ตามอุตสาหกรรม

3 อุตสาหกรรมเติบโตสูงสุด

หากเทียบกลุ่มที่มีมูลค่ากำไรสุทธิโดดเด่นที่สุด คือ ธุรกิจการเงิน (Financials) ที่ประกอบด้วย 3 หมวดธุรกิจ ได้แก่ ธนาคาร (Banking), เงินทุนและหลักทรัพย์ (Finance & Securities) และ ประกันภัยและประกันชีวิต (Insurance) โดยกลุ่ม Financials มีกำไรสุทธิรวม 70 หลักทรัพย์ ในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 79,639 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อนที่ 79,236 ล้านบาท และเติบโต 3.6% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน 76,872 ล้านบาท ในขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ 240,060 ล้านบาท ขยายตัว 4.1% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 230,677 ล้านบาท

แต่หากเทียบจากอัตราการเติบโตที่สูงสุดทั้งจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) ที่ประกอบด้วยหมวด ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Components) และ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communication Technology) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 รวม 45 หลักทรัพย์ อยู่ที่ 24,228 ล้านบาท

โดยเพิ่มขึ้น 2.6% จากไตรมาสก่อนที่ 23,611 ล้านบาท และเติบโตกว่า 57.6% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 15,373 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ 71,147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.4% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 50,321 ล้านบาท

และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ (Services) ที่ประกอบด้วย พาณิชย์ (Commerce), การแพทย์ (Health Care Services), สื่อและสิ่งพิมพ์ (Media & Publishing), บริการเฉพาะกิจ (Professional Services), การท่องเที่ยวและสันทนาการ (Tourisms & Leisure) และ ขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation & Logistics) รวม 132 หลักทรัพย์

ซึ่งกลุ่ม Services มีกำไรสทุธิในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 46,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.5% จากไตรมาสก่อนที่ 32,948 ล้านบาท และเติบโตกว่า 56.3% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 30,039 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 67 มีกำไรสทุธิอยู่ที่ 110,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 101,036 ล้านบาท

Industrials กำไรหดตัวยกกลุ่ม

ในทางกลับกันกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรสุทธิปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในไตรมาส 3/67 นี้ คือ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials) ที่ประกอบด้วย 6 หมวดธุรกิจ พบว่า กำไรสุทธิทั้งในไตรมาส 3/67 และในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 ของกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หดตัวลงสูงที่สุด ทั้งจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

ยานยนต์ (Automotive)

  • กำไรในไตรมาส 3/67 รวม 18 หลักทรัพย์ อยู่ที่ 744 ล้านบาท ลดลง 21.0% จากไตรมาสก่อนที่ทำได้ 943 ล้านบาท และหดตัวลง 60.9% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 1,903 ล้านบาท
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 ทำได้ที่ 3,526 ล้านบาท ลดลง 40.6% จากทเยบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 5,937 ล้านบาท

 
วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (Industrial Materials & Machine)

  • กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 รวม 20 หลักทรัพย์ อยู่ที่ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ -7 ล้านบาท แต่ลดลง 71.2% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 84 ล้านบาท
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 ทำได้ที่ระดับ139 ล้านบาท ลดลง 6.0% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 148 ล้านบาท

กระดาษและวัสดุการพิมพ์ (Paper & Printing Materials)

  • กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 รวม 1 หลักทรัพย์ อยู่ที่ 109 ล้านบาท ลดลง 45.0% จากไตรมาสก่อนที่ 199 ล้านบาท และหดตัวลงกว่า 60.8% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 279 ล้านบาท
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 488 ล้านบาท ลดลง 30.9% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 705 ล้านบาท

ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (Petrochemicals & Chemicals)

  • กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 รวม 14 หลักทรัพย์ อยู่ที่ -19,034 ล้านบาท ลดลงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ -19,859 ล้านบาท แต่หดตัวลงมากจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 2,806 ล้านบาท
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ -36,110 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 1,592 ล้านบาท

บรรจุภัณฑ์ (Packaging)

  • กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 รวม 21 หลักทรัพย์ อยู่ที่1,761 ล้านบาท ลดลง 37.1% จากไตรมาสก่อนที่ 2,801 ล้านบาท และหดตัวลงกว่า 25.0% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 2,348 ล้านบาท
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ 7,728 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 6,174 ล้านบาท

เหล็ก และ ผลิตภัณฑ์โลหะ (Steel and Metal Products)

  • กำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 รวม 21 หลักทรัพย์ อยู่ที่ -4,251 ล้านบาท ขยายตัวขึ้นมากจากไตรมาสก่อนที่ -1,792 ล้านบาท และติดลบสูงกว่า 648.5% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 568 ล้านบาท
  • ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 อยู่ที่ -6,608 ล้านบาท ติดลบสูงถึง 732.1% จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 794 ล้านบาท