"ประพันธ์" อวดผลงาน บจ. เล็ก กำไรแจ๋ว 9 เดือนแรกพุ่ง 6.3 พันล้าน โต 27%

25 พ.ย. 2567 | 11:10 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2567 | 11:10 น.

บจ. mai ประกาศงบ 9 เดือน ยอดขายโต 5.9% รักษาความสามารถในการทำกำไรได้ดี กำไรจากการดำเนินงานโต 31.0% และกำไรสุทธิโต 27.2 % จากเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ชูกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และบริการ โตดีทั้งยอดขายและกำไร

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 213 บริษัท คิดเป็น 97% จากทั้งหมด 220 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด) นำส่งผลการดำเนินงาน โดย 9 เดือนแรกปี 67 พบ บจ. รายงานกำไรสุทธิจำนวน 151 บริษัท คิดเป็น 71% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด 

ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 67 ของ บจ. mai เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มียอดขาย 155,843 ล้านบาท และต้นทุนขาย 115,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% และ 4.2% ตามลำดับ ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 40,566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 29,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 11,364 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.0% และ 27.2 % ตามลำดับ

และหากพิจารณาถึงความสามารถในการทำกำไร พบว่า บจ. ยังคงความสามารถในการทำกำไรดี โดยมี Gross Profit Margin  Operating Profit Margin และ Net Profit Margin อยู่ที่ระดับ 26.0% 7.3% และ 4% เพิ่มขึ้น 1.1% 1.4% และ 0.6% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน ตามลำดับ 

"ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ของ บจ. ใน mai ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก บจ. ทำผลประกอบการสะสมมาได้ดี หากแต่งวดไตรมาสที่ 3 เริ่มเห็นการเติบโตน้อยลง โดยมียอดขายและกำไรจากการดำเนินงานเติบโตเพียง 3.9% และ 4.9% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน หากพิจารณางวด 9 เดือน ตามรายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ายอดขายเติบโตในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มทรัพยากรที่มียอดขายลดลง โดย 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) และกำไรสุทธิ ได้แก่ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มบริการ”

ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

ในส่วนของฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 329,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากสิ้นปี มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) อยู่ที่ 0.78 เท่า เท่ากับปี 2566 

ปัจจุบันมี บจ.ใน mai 220 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 322.57 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 311,812 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1,554 ล้านบาทต่อวัน