BKA เคาะราคา IPO ที่ 1.80 บาท เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย.นี้

04 เม.ย. 2568 | 07:02 น.
อัปเดตล่าสุด :04 เม.ย. 2568 | 07:02 น.

หุ้นน้องใหม่ BKA เคาะราคา IPO 1.80 บาท เตรียมเปิดจองซื้อ 8-10 เม.ย. นี้ พร้อมเข้าเทรดตลาด mai 22 เม.ย. ย้ำไม่เลื่อนเทรด มั่นใจมากว่าสภาพธุรกิจ BKA ไม่สัมพันธ์กับสภาวะตลาดในปัจจุบัน

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของ บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA เปิดเผยว่า BKA ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.80 บาท 

โดยการเปิดจองซื้อหุ้นนั้น กำหนดในช่วงระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 68 และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 22 เม.ย. 68 นี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO ดังกล่าว มีส่วนลดให้นักลงทุนในระดับที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาวะของตลาดหุ้นในปัจจุบัน

รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง สามารถทำกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) ที่ 10 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัท ในปี 67 และจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วของบริษัทภายหลัง IPO (Fully Diluted)

"แม้ว่าสภาวะตลาดหุ้นไทยในระยะนี้อาจไม่ได้สดใสนัก แต่เราไม่เลื่อนการเทรดหุ้นแน่นอน เพราะมั่นใจมากว่าสภาพธุรกิจ BKA ไม่สัมพันธ์กับสภาวะตลาดในปัจจุบัน ด้วยปัจจัยพื้นฐานของบริษัทสร้างความเชื่อมั่นได้ และจากผลตอบรับของนักลงทุนยังค่อนข้างดี"

ออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)

นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA กล่าวว่า เม็ดเงินที่ BKA จะได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายพอร์ตการให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) เพิ่มขึ้น เนื่องจากมองเห็นความต้องการยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงนำไปพัฒนาธุรกิจ Property Technology (Prop Tech) โดยสร้าง Platform ตัวกลางในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งผู้ต้องการซื้อและขายบ้านได้หลากหลายเพิ่มมากขึ้น จากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาข้อมูลให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน

ตลอดจนการลงทุนในเทคโนโลยีระบบเสมือนจริง (Virtual Reality) เพื่อนำมาใช้ในการแนะนำบ้านให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้เห็นภาพบ้านเสมือนจริงทางออนไลน์ โดนที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ

"จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อคอนโด เริ่มลังเลและหันมาดูบ้านมือสองมากขึ้น โดยกลุ่มบ้านช่วงราคา 7-10 ล้านบาท ยังเป็นที่สนใจ ซึ่งจากแผ่นดินไหวสินค้าบ้านมือสองของเราไม่ได้รับผลกระทบในเชิงอาคารทรุดแต่อย่างใด"

พชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA

ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัท กลุ่มครอบครัวธนวงศ์เกษม และนายภัคพล เพ็ชร์แย้ม ที่ถือหุ้นรวมกัน 87% ของทุนชำระแล้วก่อนไอพีโอ หรือคิดเป็น 62.14% ของทุนชำระแล้วหลังไอพีโอ 

ซึ่งมีหุ้นติด Silent Period ตามหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดห้ามขายหุ้นในสัดส่วน 55% ของทุนชำระแล้วหลังไอพีโอ เป็นระยะเวลา 1 ปี แล้ว และหุ้นที่เหลือส่วนที่ไม่ติด Silent Period ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 15 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7.14% ของทุนชำระแล้วหลังไอพีโอ จะถูกห้ามขายโดยสมัครใจ (Voluntary IPO Lock Up) เป็นระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มทำการซื้อขายหุ้นของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

ส่งผลให้มีหุ้นเดิมที่ถือโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่พร้อมใจกันงดการเสนอขาย หรือโอนด้วยวิธีการใดๆ นับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย (Lock-Up) ทั้งหมด 87% เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน

BKA แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน พร้อมทั้งผู้จัดจำหน่าย อีก 5 แห่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะ ที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวเสริมว่า BKA เป็นผู้นำธุรกิจบริการซื้อขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ที่มีความได้เปรียบทั้งด้านทำเล ราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับบ้านโครงการใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้หาซื้อบ้าน

ขณะที่ Model ธุรกิจบ้านแต่ง (Flipping) เป็นการวางเงินประกัน ปรับปรุง และขายบ้าน โดยไม่ต้องลงทุนซื้อบ้านทั้งหลัง ทำให้ประหยัดเงินลงทุน ซึ่งให้ผลตอบแทนสูง นอกจากนี้มองว่า ตลาดบ้านมือสองยังมีศักยภาพการเติบโต โดยเห็นได้จาก สถาบันการเงินและ AMC มีทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ที่ค้างอยู่ในระบบจำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้าบ้านมือสองทำเลดี ราคาคุ้มค่าต่อการลงทุน

บ้านรีโนเวท BKA

และที่สำคัญ BKA ผู้ให้บริการซื้อ-ขายบ้านมือสอง ที่มีจำนวนบ้านมือสองตกแต่งใหม่พร้อมขายจำนวนมาก โดยให้บริการปรับปรุงและขายบ้านมือสอง ซึ่งมีรายได้กระจายไปในบ้านแต่ง บ้านฝาก และบ้านตัด หลายโครงการในทำเลที่ดี โดยไม่ได้ Focus ไปที่โครงการใดโครงการหนึ่ง

ประกอบกับด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจของผู้บริหารมาเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี ยิ่งตอกย้ำศักยภาพความน่าเชื่อถือในการสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัท ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานการเติบโตในธุรกิจของบริษัท

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 65-67 บริษัท มีรายได้รวม จำนวน 1,302.92 ล้านบาท, 1,313.59 ล้านบาท และ 1,142.46 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ ในปี 65-67 จำนวน 21.44 ล้านบาท, 22.27 ล้านบาท และ 36.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 1.65, ร้อยละ 1.70 และร้อยละ 3.22 ตามลำดับ

พร้อมกันนี้ BKA แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน พร้อมทั้งผู้จัดจำหน่าย อีก 5 แห่ง เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย

  • บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
  • บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด