thansettakij
SET เผย 30 บจ. ไทย แห่ "ซื้อหุ้นคืน" วงเงินรวมกว่า 3.68 หมื่นล.

SET เผย 30 บจ. ไทย แห่ "ซื้อหุ้นคืน" วงเงินรวมกว่า 3.68 หมื่นล.

07 เม.ย. 2568 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :07 เม.ย. 2568 | 02:46 น.

เปิดโผ 30 บริษัทจดทะเบียนประกาศ "ซื้อหุ้นคืน" สิ้นเดือนมี.ค.68 วงเงินรวมกว่า 3.68 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 26% จากสิ้นปีก่อน พบ PTT-HMPRO-TTB วงเงินซื้อหุ้นคืนสูงสุด

ในช่วงที่ผ่านมาจะพบว่า หลายบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ถูกซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) เป็นผลทำให้หลาย บจ. มีการทยอยประกาศซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินกันอย่างต่อเนื่อง

โดยเหตุผลในการ "ซื้อหุ้นคืน" ของเหล่า บจ. นั้น หลักๆ เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ให้มากขึ้น

รวมยังเพื่อเป็นการตอกย้ำและแสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องของบริษัทยังคงมีเหลืออยู่เพียงพอ ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ตลอดจนยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว เดิมทีนั้นเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนของ บจ. ค่อนข้างมีกรอบที่จำกัด ทำให้ไม่เป็นที่นิยมนัก

แต่ด้วยการปลดล็อคเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้ บจ. ให้ความสนใจในการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายๆว่า เมื่อความต้องการหุ้นเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นการจะปรับตัวได้สูงขึ้น และเมื่อปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายในตลาดลดลง ก็จะส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นสูงขึ้นตามไปด้วย 

ทั้งนี้ ล่าสุดทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เผยถึงจำนวน บจ. ที่ประกาศการรับซื้อหุ้นคืน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 จำนวน 30 บริษัท  คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 36,845 ล้านบาท แบ่งเป็น บจ. ใน SET จำนวน 26 บริษัท วงเงินรวม 26,590 ล้านบาท และ mai จำนวน 4 บริษัท วงเงินรวม 255 ล้านบาท

ประกอบด้วยหมวด

  • AGRO จำนวน 2 บริษัท วงเงิน 216 ล้านบาท
  • FINCIAL จำนวน 2 บริษัท วงเงิน 7,500 ล้านบาท
  • INDUS จำนวน 5 บริษัท วงเงิน 430 ล้านบาท
  • PROPCON จำนวน 6 บริษัท วงเงิน 1,575 ล้านบาท
  • RESOURC จำนวน 3 บริษัท วงเงิน 16,700 ล้านบาท
  • SERVICE จำนวน 10 บริษัท วงเงิน 9,874 ล้านบาท
  • TECH จำนวน 2 บริษัท วงเงิน 550 ล้านบาท เป็นต้น

จากเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ที่มี บจ. รับซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้น 39 บริษัท คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 29,223 ล้านบาท แบ่งเป็น SET จำนวน 34 บริษัท วงเงินรวม 28,826 ล้านบาท และ mai 5 บริษัท วงเงินรวม 397 ล้านบาท แม้ว่าจำนวน บจ. จะลดลง แต่มูลค่ากลับเพิ่มขึ้นถึง 2,378 ล้านบาทจากสิ้นปีก่อน หรือคิดเป็นกว่า 26.08%

เปิดโผ บจ. ซื้อหุ้นคืน

  • ACE วงเงิน 500 ล้านบาท
  • ASEFA วงเงิน 70 ล้านบาท
  • ASP วงเงิน 500 ล้านบาท
  • DRT วงเงิน 320 ล้านบาท
  • EKH วงเงิน 400 ล้านบาท
  • HMPRO วงเงิน 7,000 ล้านบาท
  • HUMAN วงเงิน 250 ล้านบาท
  • III วงเงิน 125 ล้านบาท
  • ITEL วงเงิน 300 ล้านบาท
  • KIAT วงเงิน 30 ล้านบาท
  • LPN วงเงิน 100 ล้านบาท
  • MGC วงเงิน 100 ล้านบาท
  • PRM วงเงิน 600 ล้านบาท
  • PSL วงเงิน 675 ล้านบาท
  • PTT วงเงิน 16,000 ล้านบาท
  • SFLEX วงเงิน 50 ล้านบาท
  • SKR วงเงิน 700 ล้านบาท
  • SNC วงเงิน 180 ล้านบาท
  • SORKON วงเงิน 81 ล้านบาท
  • SSP วงเงิน 200 ล้านบาท
  • STECON วงเงิน 990 ล้านบาท
  • SYNTEC วงเงิน 150 ล้านบาท
  • TAN วงเงิน 24 ล้านบาท
  • TKN วงเงิน 135 ล้านบาท
  • TTB วงเงิน 7,000 ล้านบาท
  • VIH วงเงิน 200 ล้านบาท
  • K วงเงิน 75 ล้านบาท
  • PMO วงเงิน 30 ล้านบาท
  • THANA วงเงิน 30 ล้านบาท
  • TRP วงเงิน 120 ล้านบาท