Liberator คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ "ผันผวน" ในกรอบ 1,100-1,130 จุด

08 เม.ย. 2568 | 02:46 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2568 | 02:46 น.

บล.ลิเบอเรเตอร์ ชี้ SET Index วันนี้ “ผันผวน” ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงวุ่นวายยิ่งขึ้น หลังจีนขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ส่วนไทยยังรอการเจรจาภาษี ตลท.ออกมาตรการห้าม Short sell ชั่วคราว คาดช่วยจำกัด Downside

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 8 เม.ย.68 ว่า ดัชนี Dow Jones ในระยะสั้นปรับตัวลดลงแรง 3 วันติดต่อกัน ตอบรับความกังวลภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีความเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะถดถอยมากยิ่งขึ้น

หลังสถานการณ์ประเด็นภาษีนำเข้ายังคงยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น โดยล่าสุดทางกระทรวงการคลังของจีนได้ประกาศจะเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มอีก 34% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. นี้

ด้านทรัมป์ตอบโต้โดยการก็ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพิ่มขึ้นอีก 50% หากจีนไม่ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯเพิ่มเติมภายในวันนี้ (8 เม.ย.) ดังนั้น ยังแนะติดตามการตอบโต้ภาษีอย่างใกล้ชิด

ส่วน SET วันนี้คาดแกว่งผันผวน ท่ามกลางความเสี่ยงที่เร่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดีทางด้าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีการออกมาตรการห้าม Short sell ชั่วคราว ในช่วง 8-11 เม.ย. 68 นี้ คาดจะช่วยจำกัด Downside ยิ่งขึ้น

ผสานกับวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปไทย เดือน มี.ค. ที่ +0.84% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ชะลอจาก ก.พ. ที่ +1.08% และต่ำกว่าคาดที่ +1.0% เช่นเดียวกับเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.86% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ชะลอจาก +0.99% และต่ำกว่าคาดที่ +1.0% เช่นกัน

โดยจากตัวเลขเงินเฟ้อไทยที่ต่ำคาด ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นที่เผชิญกับความเสี่ยงประเด็นภาษีตอบโต้ของทรัมป์ (รอการเจรจาก่อนกำหนดเส้นตาย 9 เม.ย.นี้) คาดจะเพิ่มโอกาสที่ กนง. จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยไทยอีก 0.25-0.5% ในช่วงที่เหลือของปี

ปัจจัยที่ต้องจับตา

08 เม.ย.68

  • การประชุม ครม.

09 เม.ย.68

  • รายงานประชุมเฟดรอบล่าสุด
  • สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ 

10 เม.ย.68

  • ดัชนี CPI ของ สหรัฐฯ
  • ดัชนี CPI & PPI ของจีน 
  • ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ

11 เม.ย.68

  • ดัชนี PPI ของสหรัฐฯ 
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.มิชิแกน

หุ้นเด่นแนะนำ

BDMS (ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30.00 บาท)

  • คาดกำไรไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติและชาวไทย รวมทั้งผลกระทบจากเดือนรอมฎอนที่ไม่มากนัก
  • ส่วนภาพรวมปีนี้คาดกำไรเติบโตราว +10% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนภาพระยะยาวมีแนวโน้มเชิงบวกจากแผนการเพิ่มจำนวนเตียงที่มากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเทียบเคียงใกล้ระดับ -2.0SD ถือว่าเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม