ตลท. จี้ GLOCON-WAVE ชี้แจงงบการเงินปี 67 แนะนักลงทุนเฝ้าติดตาม

08 เม.ย. 2568 | 03:54 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2568 | 03:54 น.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ GLOCON-WAVE ชี้แจงงบการเงินปี 67 หลังผู้ตรวจสอบบัญชีมีข้อสังเกต-หลักฐานตรวจสอบไม่เพียงพอ พร้อมกำหนดเส้นตายการชี้แจง 21 เม.ย.68 นี้

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานผ่าน Alert News เช้าวันนี้ 8 เม.ย. 68 โดยระบุว่า ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินของหุ้น จำนวน 2 ตัว  GLOCON และ WAVE รวมถึงติดตามคำชี้แจงของบริษัท

ทั้งนี้ รายละเอียดระบุในเอกสารว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ชี้แจงข้อมูลในงบการเงิน ประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกต ดังนี้

  1. บริษัทยังไม่ได้รับเงินมัดจำคืนจากการยกเลิกการลงทุน 2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (98 ล้านบาท)
  2. ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีข้างต้นอาจกระทบต่อฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และการขยายธุรกิจของบริษัท 

โดยขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัทภายในวันที่ 21 เมษายน 2568 นอกจากนี้ ขอให้ผู้ลงทุน ศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท 

สรุปเหตุการณ์และข้อมูลสำคัญในงบปี 67 

เงินมัดจำเพื่อลงทุนใน Agri Life Trading L.L.C. (ALT) 

  • เดือน พ.ย.66 บริษัทลงนามทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ ALT (จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกอบ ธุรกิจซื้อขายสินค้า เช่น ธัญพืช เมล็ดพืช น้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม เป็นต้น) เพื่อซื้อกิจการของ ALT และวางเงินมัดจำ กับผู้ถือหุ้นของ ALT 2.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (98 ล้านบาท) 
  • เดือน มี.ค.67 บริษัทแจ้งว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานะและประเมินมูลค่ากิจการของ ALT คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.67 ต่อมาขยายเวลาเป็นเดือนส.ค.67 
  • เดือน ก.ย.67 บริษัทแจ้งยกเลิกการลงทุนใน ALT เนื่องจากได้รับข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบและประเมินมูลค่า กิจการ และอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามเงินมัดจำคืน รวมทั้งบริษัทตั้งด้อยค่าเงินมัดจำดังกล่าวทั้งจำนวน โดยงบปี 67 ผู้สอบบัญชียังคงมีข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวและบริษัทยังอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามเงินมัดจำคืน 

ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง ปี 67 มีขาดทุนสะสม 1,137 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40%) 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอทราบความเห็นของคณะกรรมการบริษัท ดังนี้ 

  1. การพิจารณาความสามารถในการดำเนินการตามสัญญาของคู่สัญญาและการให้วางหลักประกัน ณ วันที่อนุมัติ เข้าทำรายการ และความสมเหตุสมผลของการจ่ายเงินมัดจำ รวมถึงผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ แผนการขยายธุรกิจ และสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท 
  2. นโยบายการลงทุนในอนาคต ความเสี่ยงและการป้องกันความเสี่ยงจากการเข้าลงทุนและไม่ได้เงินมัดจำคืนหรือมีข้อพิพาท เช่น การให้วางหลักประกัน เป็นต้น 
  3. ความคืบหน้าในการติดตามเงินมัดจำคืน กรณีที่ยังไม่แล้วเสร็จ ขอให้บริษัทเปิดเผยการดำเนินการพร้อมกับการนำส่ง งบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่สำคัญ จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ

ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE ชี้แจงข้อมูลในงบการเงิน ประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เนื่องจากไม่สามารถได้รับหลักฐานการตรวจสอบที่เหมาะสมอย่างเพียงพอในการกำหนดราคาที่คาดว่าจะชายได้ของใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC(E)s) ส่งผลให้มีการบันทึกด้อยค่ารายการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ I-REC(E)s รวม 1,031 ล้านบาท เป็นผลให้ปี 2567 มีผล ประกอบการขาดทุน 774 ล้านบาท

ทั้งนี้ ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 16 เมษายน 2568 สำหรับความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 21 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท 

ข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 67 

1. บจก. เวฟ บีซีจี (บริษัทย่อย 74%) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและใบรับรอง พลังงานหมุนเวียน (I-REC(E)s) ปี 2567 มีรายได้ 6 ล้านบาท และด้อยค่าสินทรัพย์และหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับ I-REC(E)s รวม 1,031 ล้านบาท ได้แก่ 

  • ด้อยค่าสินค้าคงเหลือ 589 ล้านบาท (55% ของมูลค่า) โดยที่ในปี 2567 บจก. เวฟ บีซีจี ได้ถือครอง I-REC(E)s เพิ่มขึ้นจาก 682 ล้านบาท เป็น 1,066 ล้านบาท 
  • ด้อยค่าเงินจ่ายล่วงหน้าในสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อ REC(E)s ที่ยกเลิกไม่ได้ 139 ล้านบาท (41% เงินจ่ายล่วงหน้า) และขาดทุนจากสัญญาระยะยาวดังกล่าวอีก 303 ล้านบาท จากการที่บริษัทต้องชำระเงินภายใน 5 ปี รวม 1,077 ล้านบาท ทั้งนี้สัญญาดังกล่าวเป็นการทำรายการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 513 ล้านบาท 

2. บจก. เวฟ บีซีจี ได้ทำสัญญาขอขยายเวลาชำระเงินค่าซื้อ I-REC(E)s สรุปดังนี้ 

  • สัญญาที่มีกำหนดชำระในปี 2567 จำนวน 315 ล้านบาท ขอขยายเวลาเป็นภายในมีนาคม 2568 โดยจะได้รับ คืนเงินมัดจํา 65 ล้านบาท เมื่อชำระค่าสินค้าครบถ้วน 
  • สัญญาที่มีกำหนดชำระเดือนพฤษภาคม 2568 จำนวน 442 ล้านบาท (เป็นรายการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน 128 ล้านบาท) ขอขยายเวลาเป็นภายในเดือนมกราคมและมีนาคม 2569 และชำระตอกเบี้ยอัตรา 4% 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ WAVE ชี้แจงข้อมูล ดังนี้ 

  1. อธิบายหลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาซื้อ I-REC(E)s เนื่องจากมีความแตกต่างจากอัตราค่าพลังงานสีเขียว Utility Green Tariff (UGT1) ที่นำมาอ้างอิงเพื่อประเมินมูลค่า จนเป็นเหตุให้ต้องบันทึกด้อยค่ารวม 1,031 ล้านบาท 
  2. นโยบายในการบริหารสินค้าคงเหลือ I-REC(E)5 ซึ่งรวมถึงการทำสัญญาระยะยาวเพื่อซื้อใบรับรองดังกล่าว
  3. สรุปรายละเอียดของคู่ค้าที่เป็นกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ชื่อบริษัท การประกอบธุรกิจ ลักษณะความสัมพันธ์ การกำหนดราคาและเงื่อนไขการค้า รวมทั้งบริษัทได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศว่าด้วยรายการที่เกี่ยวโยงกัน แล้วหรือไม่ อย่างไร 
  4. แนวทางในการบริหารจัดการสภาพคล่องและแหล่งเงินทุนเพื่อชำระค่าซื้อ I-REC(E)s ตามภาระผูกพันสัญญา ระยะยาวที่คงค้าง รวมทั้ง บจก. เวฟ บีซีจี ได้ชำระค่าซื้อ I-REC(E) จำนวน 315 ล้านบาท ที่ครบกำหนดเดือน มีนาคม 2568 และได้รับคืนเงินมัดจำ 65 ล้านบาท ครบถ้วนแล้วหรือไม่ อย่างไร 
  5. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับความเหมาะสมของการบริหารจัดการและ แนวทางบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ I-REC(E)s และความเพียงพอของการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจของบริษัทย่อย