ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 10 ราย กรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ของบริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC ได้แก่ หุ้น TCC และใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ รุ่น 3 รุ่น 4 และรุ่น 5 (TCC-W3 TCC-W4 และ TCC-W5)
โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 59,780,191 บาท พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2562 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้กระทำความผิด 10 ราย ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกัน ได้แก่
ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ และส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด แล้วแต่กรณี โดยการกระทำดังกล่าวข้างต้นแบ่งได้เป็น 2 ช่วงเวลา ดังนี้
ช่วงเกิดเหตุที่ 1 ระหว่างวันที่ 13 มีนาคม – 21 กันยายน 2561 นางสาวพรพิน นายธนกร และนางสาววิมณฑา ได้ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น TCC โดยส่งคำสั่งซื้อ (bid) และคำสั่งขาย (offer) หุ้น TCC ในจำนวน ราคา และเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดเกี่ยวราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น TCC
ช่วงเกิดเหตุที่ 2 ระหว่างวันที่ 24 กันยายน – 6 พฤศจิกายน 2561 ผู้กระทำผิดทั้ง 10 ราย ได้ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น TCC และหลักทรัพย์ TCC-W3 TCC-W4 และ TCC-W5 โดยรู้เห็นหรือตกลงกันในการส่งคำสั่งซื้อขาย ในลักษณะสอดรับและสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง
โดยการผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น ส่งคำเสนอซื้อในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการส่งคำสั่งเสนอซื้อของบุคคลอื่น ส่งคำสั่งซื้อและขายในจำนวน ราคา และเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงการส่งคำเสนอซื้อในช่วงก่อนเปิดตลาด โดยมุ่งหมายให้ราคาเปิดปรับตัวสูงขึ้น
เป็นผลให้ราคาและปริมาณการซื้อขายของราคาหลักทรัพย์ดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นผิดไปจากสภาพปกติ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดว่าในขณะนั้นมีความต้องการซื้อขายหุ้น TCC และหลักทรัพย์ TCC-W3 TCC-W4 และ TCC-W5 ในปริมาณมากและเข้าซื้อขายตาม
การกระทำของกลุ่มผู้กระทำผิดทั้ง 10 ราย เป็นความผิดฐานร่วมกันสร้างราคาหลักทรัพย์ ตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับผู้กระทำความผิดทั้ง 10 ราย ดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ดังนี้
1) ให้นางสาวพรพิน ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 41,283,825 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 23 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 46 เดือน
2) ให้นายธนกร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,184,838 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 20 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 40 เดือน
3) ให้นางสาวยุพิน ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,035,780 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 20 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 40 เดือน
4) ให้นายนฤชิต ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,035,780 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 28 เดือน
5) ให้นางเกสร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 2,542,252 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 28 เดือน
6) ให้นายวิรัช ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 542,655 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 28 เดือน
7) ให้นายวิชัย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,627,697 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 28 เดือน
8) ให้นางดรุเณศ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 551,443 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 28 เดือน
9) ให้นางสาววิมณฑา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,797,291 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 20 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 40 เดือน
10) ให้นายปราโมทย์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 4,178,630 บาท และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 28 เดือน
มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : *มาตรา 317/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ให้การกระทำความผิดอาญาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดได้