ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี /รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ตรวจสอบ นางเมทินี ชโลธร อดีตประธานศาลฎีกา หลังจากที่ มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่งประธานศาลฎีกา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564
แต่แม้จะพ้นจากตำแหน่งประธานศาลฎีกา แต่ก็ยังไม่พ้นจากการเป็นข้าราชการ จึงไม่สามารถทำเรื่องเพื่อยื่นขอบำเหน็จ บำนาญ ได้ จะจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ ให้กับประธานศาลฎีกาได้หรือไม่ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจาก (ก.ต.)
รวมทั้งกรณีหนังสือตอบกลับจากสำนักงานศาลยุติธรรมถึงนายชำนาญว่า ได้ยุติการสอบสวนการร้องเรียนตรวจสอบนายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล ประธานแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในศาลอุทธรณ์ กรณีมีเหตุสงสัยที่จะมีการกระทำผิดวินัยอันมีลักษณะการหาเสียงเลือกตั้งก.ต.บุคคลภายนอกครั้งที่ผ่านมา ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ”สภาตุลาการ” ทั้งที่อยู่ในตำเเหน่งคณะกรรมการตุลาการ(ก.ต.)ซึ่งมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด ซึ่งนายชำนาญได้ร้องไปยัง ก.ต.ให้ทำการตรวจสอบ และร้องไปที่ทำเนียบรัฐบาลเเละสำนักงานคณะกรรมการ ปปช.ไว้ก่อนหน้านี้ด้วย
โดย เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนก่อน (นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ปัจจุบันไปดำรงตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค1 โดยนายพงษ์เดชได้เสนอเรื่องยุติการสอบสวน ไปยังอดีตประธานศาลฎีกา (นางเมทินี ชโลธร)เพื่อมีความเห็น โดยอดีตประธานศาลฎีกา มีความเห็นสั่งยุติการสอบสวน ไปแล้ว โดยไม่มีการชี้แจงขั้นตอนการสอบสวน โดยนายชำนาญระบุหากยังไม่ชัดเจนจะยื่นเรื่องนี้ให้ปปช.ตรวจสอบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ได้พยายามติดต่อ นายพงษ์เดช อดีตเลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม เพื่อสอบถามเรื่องนี้ แต่ยังไม่สามารถติดต่อนายพงษ์เดชได้
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว ได้สอบถามแหล่งข่าวหลายคน ซึ่งอยู่ในคณะผู้บริหารศาลยุติธรรมชุดที่เเล้วเเละชุดปัจจุบันเพื่อสอบถามความชัดเจนในกรณีนี้ เเต่ได้รับคำตอบที่ระบุว่าไม่สะดวกจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว