กลยุทธ์ใหม่ดันยอดขายแมทเทลปรับโฉมใหม่บาร์บี้พร้อมเดินหน้าลุยพัฒนาดิจิตอลคอนเทนต์
แมทเทลรายงานยอดขายไตรมาส 3 เติบโต 15.8% หลังปรับกลยุทธ์ธุรกิจด้วยการปรับโฉมตุ๊กตาบาร์บี้เพิ่มความทันสมัย พร้อมเดินหน้าจับมือทอนเกิลพัฒนาดิจิตอลคอนเทนต์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์อย่างต่อเนื่องหลังจากความนิยมตกต่ำ
ภาพของตุ๊กตาบาร์บี้แฟชั่นนิสต้าที่ดูออกจะเป็นสาวสวยทันสมัย ด้วย 7 โทนสีผิวและทรงผมสุดเก๋ บนปกนิตยสารไทม์ของเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นทิศทางกลยุทธ์ใหม่ของแมทเทล บริษัทผลิตของเล่นเด็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ช่วยหนุนให้ธุรกิจเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยมูลค่าหุ้นเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 6 % และยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 15.8 % ในไตรมาสสามของปีนี้ ทำให้แมทเทลมีรายได้ 236 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ยอดขายตุ๊กตาบาร์บี้กระโดดพุ่งถึง 16 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับเมื่อปีก่อน
งานปรับภาพลักษณ์บาร์บี้เริ่มขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญ ยู แคน บี แอนนี่ติง (You Can Be Anything)ผ่านคลิปโฆษณาที่ต้องการสื่อให้พ่อแม่เห็นถึงความสำคัญในจินตนาการ และความฝันของเด็กขณะเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ เพราะเด็กๆ มักจะสร้างจินตนาการไปกับสิ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นในอนาคตเหมือนกับว่าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ตัวนั้น โดยให้เด็กได้ลองสวมบทบาทในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันอยากจะเป็น ทั้งศาสตราจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย, สัตว์แพทย์, ผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอล, นักธุรกิจ และไกด์ในพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆนี้ แมทเทลครีเอชันส์ ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจด้านภาพยนตร์ โทรทัศน์ และคอนเทนต์ดิจิตอลของแมทเทล ได้ร่วมมือกับทอนเกิลเครือข่ายด้านความคิดสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตดิจิตอลคอนเทนต์ข้ามแพลตฟอร์ม โดยอาศัยคลังห้องสมุดและทรัพย์สินทางปัญญาของทางแมทเทล ขณะที่ทอนเกิลใช้แพลตฟอร์มการตลาดที่เฉียบแหลม ประสบการณ์ บนเครือข่ายที่มีผู้สร้างสรรค์มากกว่า 120,000 คน ในการแจ้งกลยุทธ์ดิจิตอลคอนเทนต์ของแมทเทลต่อนักพัฒนาทั่วโลก
“แมทเทลครีเอชันส์ มุ่งมั่นที่จะค้นหาหนทางใหม่ในการแบ่งปันเรื่องราวอันสร้างสรรค์และน่าดึงดูดใจบนทุกแพลตฟอร์ม ทอนเกิล หุ้นส่วนของเราและเครือข่ายของผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์จะสามารถช่วยเราสร้างนวัตกรรม เสนอเนื้อหาสำหรับทุกช่องทางการสื่อสารและทุกตลาดทั่วโลก”นางแคทเธอริน เบลแซม-ชวาเบอร์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการสื่อสารของแมทเทลกล่าว
“ทอนเกิลกำลังจะนิยามรูปแบบเนื้อหาใหม่และพวกเราตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับทีมงานของพวกเขาแบบใกล้ชิด เพื่อกลยุทธ์ของแบรนด์และสร้างแพลตฟอร์มการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเราต่อไป” นางเบลแซม-ชวาเบอร์ กล่าวเสริม
นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ของทอนเกิลจะพัฒนาคอนเทนต์ออริจินัลให้กับแมทเทลสำหรับออกอากาศผ่านทั้งช่องทางดิจิตอลและโทรทัศน์ ซึ่งรวมถึงสปอตโฆษณาทางโทรทัศน์โฆษณาออนไลน์ และคอนเทนต์ทางโซเชียลมีเดียสำหรับโปรโมตแบรนด์ ซึ่งโปรเจ็กต์แรกจะเป็นคอนเทนต์พิเศษนำเสนอเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ An American Girl Story – Melody 1963:Love Has to Win ที่จะออกอากาศครั้งแรกบนอเมซอนไพรม์ วีดีโอ ในเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ ทอนเกิลพัฒนาคอนเทนต์ให้กับแบรนด์ของแมทเทลมากกว่า 10 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกันเกิร์ลโทมัสแอนด์แฟรนและฮอทหวี่ลล์ นอกจากนี้ยังพัฒนาคอนเทนต์ให้กับแบรนด์สินค้าอื่นๆ อาทเลโก้ เนสท์เล่ ยูนิลิเวอร์และเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) เป็นต้น
นอกจากนี้แมทเทลยังคงสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแมทเทลได้ประกาศความร่วมมือกับทอยส์ "อาร์" อัส เปิดร้านค้ามินิช็อปสำหรับของเล่นแบรนด์อเมริกันเกิร์ลภายในร้านค้าของทอยส์"อาร์" อัสเกือบ 100 แห่งเพื่อให้เข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ของแมทเทลสามารถหาซื้อได้จากห้างสรรพสินค้าโคล 1,100 สาขาในสหรัฐฯ ด้วย
นายคริสโตเฟอร์ซินแคลร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมทเทลกล่าวถึงผลประกอบการที่ดีว่า “พวกเรามีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และมองเห็นความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงในแบรนด์หลักๆ ของเรา” ด้าน นายเทรเวอร์ ยัง นักวิเคราะห์ของเจฟเฟอรีย์กล่าวว่า“ผมคิดว่า ผมมองเห็นโมเมนตัมที่ดีของยอดขาย ซึ่งหมายความว่ามีความต้องการจากลูกค้า”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,206 วันที่ 3 - 5 พฤศจิกายน 2559