บิ๊กรับเหมาลั่นลุยประมูลเมกะโปรเจ็กต์ ลุ้นแนวโน้มก่อสร้างฟื้นโกยรายได้เข้าเป้า
บิ๊กรับเหมาเร่งเตรียมความพร้อมโกยงานปี 2560 ซิโน-ไทยขอลุ้นโกยงานเมกะโปรเจ็กต์เพิ่ม สี่แสงการโยธาขอปีละ 2-3 โครงการ และรับรู้รายได้ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี เผยแนวโน้มปีหน้ายังมีลุ้น
จากการที่รัฐบาลพยายามเดินหน้าลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ พร้อมเร่งรัดการเบิกจ่ายของภาครัฐ เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลบวกต่อธุรกิจสร้างอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปี 2559 นี้ภาวะตลาดวงการรับเหมายังชะลอตัวไม่หวือหวาตามที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ แต่บริษัทยังลงทุนตามปกติ ช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมาได้รับงานรถไฟทางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย วงเงินกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดได้รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลืองที่จะไปเริ่มก่อสร้างในปี 2560 รายได้จะไปรับรู้ในปีหน้าทั้ง 2 โครงการรถไฟฟ้า
ปัจจุบันบริษัทฯมีปริมาณงานหรือแบ็คล็อค ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และยังสามารถรับได้อีกมาก เพราะซิโน-ไทยฯเตรียมความพร้อมล่วงหน้ามาได้ 2-3 ปีแล้ว ปี 2558 รายได้รับรู้จำนวน 1,800-1,900 ล้านบาท ส่วนปี 2559 คาดว่าจะใกล้เคียงกัน เพราะเพิ่งจะมารับรู้งานเพิ่มช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
“เรายังวางกรอบแบ็คล็อคไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท ต่อเนื่องมาทุกปี ส่วนปีนี้จะเห็นว่างานที่ป้อนเข้ามาจะไปเซ็นสัญญาปี 2560 จึงยกยอดไปเป็นของปีหน้าทั้ง 2 โครงการ”
ด้านนายสุธี วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสี่แสงการโยธา (1979) จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะรับงานปีละประมาณ 2-3 โครงการ โดยกำหนดกรอบรับรู้รายได้ไว้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท แต่ยังรับงานเพิ่มได้อีก โดยปีนี้รับงานของกรมทางหลวง ในโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) เส้นพัทยา-มาบตาพุด ไป 1 สัญญา ส่วนรายได้ปีที่ผ่านมารับรู้ได้เกือบ 2,000 ล้านบาท
“ปี 2559 นี้ก็คาดว่าจะใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นยังได้เตรียมความพร้อมรับงานเพิ่มในปี 2560 เอาไว้ด้วยแล้วทั้งกำลังคนและเครื่องมือต่างๆ แต่จะยังไม่รับงานเกินตัว โดยจะเร่งงานให้แล้วเสร็จก่อนจากนั้นจึงจะไปรับงานใหม่เพิ่มให้ดำเนินการต่อเนื่องกันไป”
นายพิเชฐ นิ่มพานิชย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท คริสเตียนี และ นีลเส็น(ไทย) จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าคริสเตียนีฯ ในฐานะดำเนินธุรกิจด้านรับเหมาก่อสร้างและเป็นผู้พัฒนาโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้เตรียมพร้อมเพื่อตอบสนองการลงทุนที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยมองว่างานในส่วนที่รัฐดำเนินการมีความชัดเจนเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ทยอยเร่งผลักดันออกมา เช่นเดียวกับธุรกิจที่โยงกับการท่องเที่ยว การกระตุ้นกำลังซื้อครัวเรือน โดยคริสเตียนี ได้เตรียมการทั้งรวมทีมบุคลากร ขยายกำลังเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าแข่งขันงานภาครัฐ ซึ่งรวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพและเงินทุนสูงด้วย
“ดังนั้นจึงยังมีลุ้นกันต่อไปในปี 2560 แต่คริสเตียนีฯ ปัจจุบันได้ก้าวมาถึงสถานะที่มีความสามารถในการร่วมประมูลโครงการภาครัฐทุกประเภท โดยได้เตรียมศักยภาพทางการแข่งขันให้พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆทั้งด้านกำลังคน เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง การบริหารจัดการ รวมถึงเตรียมความพร้อมทางการเงินเพื่อรองรับโอกาสในการลงทุนพัฒนาโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเหล่านี้ และที่ขาดไม่ได้คือการประเมินความเสี่ยงของแต่ละโครงการเป็นเรื่องพื้นฐานที่เราดำเนินการเป็นลำดับต้น ๆ เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมากระทบต่อบริษัทฯ ในอนาคต ถ้าเรามุ่งแต่จะเอางาน เอาปริมาณงานในมือ (Backlog) แล้วเราก็จะไปเผชิญการแก้ปัญหาอย่างหนักข้างหน้า”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,218 วันที่ 15-17 ธันวาคม 2559