"บอดี้โกลฟ" พลิกภาพลักษณ์แบรนด์ สู่สปอร์ตแวร์คอลเลคชั่น ชู "เจนี่ เทียน" พรีเซนเตอร์ตัวแทนสาวรักสุขภาพเจาะใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมปูพรมรุกตลาดอาเซียน หลังสยายปีกบุกเมียนมายอดขายทะลัก
นางสาวดลนภา ธรรมวัฒนะ ผู้อำนวยการสายงานบริหารการตลาด บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ "บอดี้โกลฟ" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนบริษัททำการปรับภาพลักษณ์แบรนด์บอดี้โกลฟ (Re-image) สู่ความเป็นสปอร์ตแวร์คอลเลคชั่นมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้และให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีการขยายตัวสูงต่อเนื่อง และล่าสุดได้เปิดตัวนางเอกชื่อดัง "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" ในฐานะพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ เพื่อสร้างการรับรู้และขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ๆที่สนใจในเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น
สำหรับแผนงานในครึ่งปีแรกเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านพรีเซนเตอร์หลัก พร้อมกับจัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบที่หลากหลาย เช่น โปรโมชันตามฤดูกาล โปรโมชันพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขาย ณ จุดขาย รวมทั้งการขยายสาขาเพิ่ม โดยเฉพาะในศูนย์การค้าใหม่ที่เกิดขึ้นทั้งเซ็นทรัล, เดอะมอลล์, บิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส เป็นต้น จากปัจจุบันที่มีสาขารวม 150 แห่ง พร้อมกันนี้จะเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยบริษัทได้เปิดให้บริการส่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาและพบว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปีนี้จะเน้นการจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ควบคู่กันไป
"นอกเหนือจากเรื่องโปรโมชันที่จะเห็นได้ชัด ปีนี้บอดี้โกลฟ จะโฟกัสการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากมองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนิยมเสพข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันช่องทางดังกล่าวยังเป็นช่องทางการตลาดที่ประหยัดต้นทุนและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงมากที่สุด"
ด้านตลาดต่างประเทศบริษัทเข้าไปทำตลาดในเมียนมาเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์นักธุรกิจท้องถิ่น และปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 3 แห่งโดยในปีนี้มีแผนจะขยายสาขาในเมียนมาเพิ่ม 1 แห่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างศึกษาตลาดและโลเกชันที่เหมาะสม และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพาร์ตเนอร์นักธุรกิจท้องถิ่น เพื่อขยายตลาดในเวียดนามด้วย
"ที่ผ่านมาบริษัทได้รับลิขสิทธิ์ในการทำตลาดแบรนด์บอดี้โกลฟ ใน 5 ประเทศได้แก่ เมียนมาเวียดนาม ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ แต่ยังไม่มีการทำตลาดอย่างจริงจังมากนัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจในศักยภาพแต่ภายหลังจากที่เข้าไปรุกตลาดเมียมาและได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีแนวคิดที่จะขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยจะเริ่มจากเวียดนาม"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,229 วันที่ 22 - 25 มกราคม 2560