‘เธียรสุรัตน์’ลุยลีสซิ่ง ขยายธุรกิจจากฐานลูกค้าเดิม 2 ล้าน ระบบตามหนี้พร้อม

ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลแข่งดุเดือด “เธียร์สุรัตน์”ลั่นกรองรบ เปิดให้บริการแล้ว หากำไรเพิ่มจากขายผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องกรองน้ำ

นาย วิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทเพิ่มธุรกิจใหม่ โดยการให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อต่อยอดฐานลูกค้าเดิมจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำ แบบขายตรง ทั้งเงินสดและเงินผ่อนที่ทำมาตั้งเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะขยายไปเพิ่มธุรกิจขายตรงเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านโปรแกรม”ผ่อนสบาย” ขายผ่านช่องทางขายทางโทรศัพท์ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น โทรทัศน์ เครื่องซักผ้าแบบเงินผ่อนซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากในปี2559ที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าทั้งหมดประมาณ 2 ล้านราย โดยลูกค้าประมาณ 85% ไม่มีบัตรเครดิต

“ เราขยายมาทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล หลังจากมีประสบการณ์การขายเครื่องกรองน้ำแบบให้เครดิตทั่วประเทศ มีทีมเก็บเงินเอง และมีทีมให้บริการหลังการขาย เข้าไปตรวจสอบคุณภาพเครื่องกรองน้ำ เปลี่ยนไส้กรองถึงครัวเรือน ตอนนี้ขายเครื่องกรองน้ำแบบเงินผ่อนมากกว่า 90% ให้เวลาผ่อน 13 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน พบว่ามีหนี้เสียน้อยกว่าอดีตที่เคยให้ผ่อนยาวถึง 24 เดือน ส่วนการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินผ่อนก็ไปได้ดีมาก

ผมมองว่า ตลาดต่างจังหวัดยังมีขนาดใหญ่มาก ส่วนในกรุงเทพและปริมณฑล ก็มีความต้องการซื้อสินค้าเงินผ่อนมีอีกมาก ขณะที่บริษัทเอง มีการลงทุนทางด้านระบบ การจำหน่าย และติดตามเก็บหนี้ โดยการเขียนซอฟ์ทแวร์ขึ้นมาเอง ทำให้สามารถรู้ผลการจัดเก็บเงินได้แบบเรียลไทล์ เชื่อว่าจะไม่เกิดหนี้สงสัยจะสูญมากเหมือนปี2559 ที่มีการตั้งสำรองถึง 235 ล้านบาท เทียบกับปี 2558 ที่มีการตั้งสำรอง 115 ล้านบาท ที่ผ่านมา ก็มีการไม่อนุมัติให้ซื้อสินค้าผ่อนหลายราย และหากรายใดมีหนี้เสียก็จะถูกลงโทษด้วย“นายวิรัชกล่าว

กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า แนวโน้มการขายเครื่องกรองน้ำในปีนี้คาดว่าจะมากกว่าปี 2559 ที่ขายได้เกือบ 9 หมื่นเครื่อง สร้างรายได้จำนวน 1,800 ล้านบาท หลังจากขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด รวมถึงตลาดออนไลน์ เช่น การจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก และไลน์ เป็นต้น โดยทีมวิจัยและพัฒนาเครื่องที่ดีขึ้น และใช้คาร์บอนเกรดสูงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด สามารถใช้ได้ประมาณ 2 ปี ทำให้น้ำดื่มสะอาด มีความเป็นด่างและใส่แร่ธาตุเพิ่มตามความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้บริษัทยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดสูงอันดับต้นของประเทศไทย และยังมีการรับจ้างผลิตเครื่องกรองน้ำให้กับหลายแบรนด์ โดยมีแผนที่จะขยายสาขาอีกไม่ต่ำกว่า 5 สาขาจากปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งหมด 19 สาขา กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย เช่นในภาคใต้ 4 จังหวัด ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง รวมถึงการร่วมทุนกับกลุ่มธุรกิจลีสซิ่งในลาว เพื่อส่งออกเครื่องกรองน้ำออกไปขายยังต่างประเทศชุดแรกในไตรมาสแรกนี้

สำหรับการรับมือเครื่องกรองน้ำจากต่างประเทศที่เข้ามาแข่งขันในประเทศไทย นายวิรัชกล่าวว่า บริษัทฯสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากทีสินค้าที่ดี รวมถึงทีมขายที่ดีด้วยและมีเงินกองทุนที่แข็งแรง ปัจจุบันสัดส่วนหนี้สินต่อทุนหรือดี/อีลดลงเหลือประมาณ 0.9-1 เท่าเท่านั้น นอกจากนั้นลูกค้าของบริษัทยังมีความต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำรุ่นใหม่ ๆ เช่น เมื่อผ่อนเครื่องเก่าหมด ก็สนใจสอบถามถึงเครื่องรุ่นใหม่ ขณะนี้ยังสนใจเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทมีหลักเกณฑ์ของการสร้างภาระหนี้ก้อนใหม่ โดยพิจารณาจากภาระหนี้ที่ยังผ่อนไม่หมด

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์เออีซีฯ คงแนะนำให้ “ซื้อ”หุ้น TSR ด้วยมูลค่าพื้นฐานปีนี้ ที่6.60 บาท เพื่อสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่จะพลิกกลับมาโตโดดเด่นอีกครั้ง คาดปีนี้ จะมีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 237 ล้านบาท ในปีหน้า คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วง 2 ปีนี้ ปีละ 71.4% ส่วนรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 19.8% เพราะกลยุทธ์เชิงรุกทั้งการเพิ่มสาขา การเพิ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและการเพิ่มพนักงานขายทางโทรศัพท์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,241 วันที่ 5 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2560