Play
แฉเส้นทางทุจริตสหกรณ์ฯ กลุ่มธรรมาภิบาล-สมาชิกฯบุกสน.บางรักจี้เอาผิดยกยวง
สมาชิกออมทรัพย์สโมสรรถไฟเตรียมยกกำลังบุกสน.บางรัก 27 มี.ค.นี้ กลุ่มธรรมาภิบาลแฉเส้นทางทุจริตเงินกว่า 2,200 ล้านที่กลุ่มผู้บริหารอ้างไปจัดสรรอสังหาริมทรัพย์ พบบ้านหรูคนขับรถและเจ้าหน้าที่การเงินคนใกล้ชิดระดับบิ๊กสหกรณ์เพียบ
นายกิ่งแก้ว โยมเมือง ประธานด้านกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเตรียมนำสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัดทั้ง 6,300 คนไปสถานีตำรวจนครบาลบางรักในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เพื่อติดตามผลความคืบหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ร้องทุกข์เอาไว้ในโอกาสนี้ด้วย
นอกจากจะติดตามความคืบหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังสน.บางรักแล้วสมาชิกของสหกรณ์ยังจะแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เอาผิดกับบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
“ในการบุกสน.บางรักครั้งนี้จะเอาเส้นทางการเงินตลอดจนเอกสารหลักฐานต่างๆที่รวบรวมได้ทั้งหมดยื่นให้กับสน.บางรักเพื่อประกอบการสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้บริหารสหกรณ์ต่อไป ในฐานะผู้เสียหายในครั้งนี้แม้ว่ากรมส่งเสริมสหกรณ์จะแจ้งความเอาไว้แล้วก็ตาม”
[caption id="attachment_271757" align="aligncenter" width="503"]
ตัวอย่างวิลล่าหรูของกลุ่มผู้บริหารสหกรณ์ฯที่นำเงินสหกรณ์ฯไปสร้างที่ภูเก็ต[/caption]
โดยจะนำเสนอให้เห็นถึงเส้นทางการเงินที่นายบุญส่ง หงษ์ทอง และพวกอดีตประธานสหกรณ์ได้กู้เงินแล้วอ้างว่านำไปจัดสรรที่ดินพัฒนาโครงการต่างๆทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดเพื่อให้เห็นว่ามีการเริ่มต้นอย่างไรและลงรายละเอียดเชิงลึกอย่างไร
“กลุ่มธรรมาภิบาลยังคงเดินหน้าสอบในเชิงลึกเส้นทางทุจริตเงินกว่า 2,200 ล้านบาทที่นายบุญส่งและพวกกู้ไปแต่ไม่ส่งดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้กับสหกรณ์ จนส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทำให้สมาชิกทั้งกว่า 6,300 คนไม่สามารถกู้เงินได้ตามปกติ โดยมีการอ้างว่านำไปลงทุนและใช้ส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ เจ้าหน้าที่การเงิน คนขับรถ และคนใกล้ชิดอีกมากมาย”
ทั้งนี้จากการติดตามเอกสารที่มีการระบุว่าเอาไปลงทุนจัดสรรที่ดินพบว่ามีโครงการอาลีบาบาและอาลีบาบา2 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการลงทุนในระดับ 200-300 ล้านบาทเท่านั้น จึงต้องไล่เส้นทางการเงินของผู้บริหารทั้งหมดตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆในเชิงลึกว่าเอาไปพัฒนาโครงการหรือใช้จ่ายในด้านใดบ้างนอกเหนือจากการนำไปจัดสรรที่ดิน
“เบื้องต้นยังพบอีกว่ามีการพัฒนาอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่อ่อนนุชซอย 50 ในหลายโครงการ นอกเหนือจากที่คนขับรถของนายบุญส่งและพวกนำไปสร้างบ้านหรูในเขตพื้นที่ทวีวัฒนา และโครงการเดอะเครปในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี อีกทั้งยังพบว่าเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายบุญส่งและผู้บริหารสหกรณ์อีกหลายคนไปสร้างวิลล่าหรูอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะต้องตามยึดคืนกันต่อไป”
นอกจากนั้นล่าสุดกรมส่งเสริมสหกรณ์โดยสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร เขตพื้นที่ 1 ยังได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังสน.บางรักต่อกรณีที่กรมได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัด เพื่อให้พนักงานสอบสวนไต่สวนคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทุจริตเงินกว่า 2,200 ล้านบาทพร้อมกันนี้นายณรงค์พล พัฒนาศรี ผู้อำนวยสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพ มหานคร เขตพื้นที่ 1 ยังได้แต่งตั้งผู้ตรวจการสหกรณ์เฉพาะกิจจำนวน 6 คนเพื่อเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาทุจริตของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัด ต่อไปแล้ว คาดว่าจะสามารถทราบความชัดเจนทั้งหมดในสัปดาห์ต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,351 วันที่ 25 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2561
นายกิ่งแก้ว โยมเมือง ประธานด้านกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าเตรียมนำสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัดทั้ง 6,300 คนไปสถานีตำรวจนครบาลบางรักในวันที่ 27 มีนาคมนี้ เพื่อติดตามผลความคืบหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ร้องทุกข์เอาไว้ในโอกาสนี้ด้วย
นอกจากจะติดตามความคืบหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ร้องทุกข์กล่าวโทษไปยังสน.บางรักแล้วสมาชิกของสหกรณ์ยังจะแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เอาผิดกับบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
“ในการบุกสน.บางรักครั้งนี้จะเอาเส้นทางการเงินตลอดจนเอกสารหลักฐานต่างๆที่รวบรวมได้ทั้งหมดยื่นให้กับสน.บางรักเพื่อประกอบการสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้บริหารสหกรณ์ต่อไป ในฐานะผู้เสียหายในครั้งนี้แม้ว่ากรมส่งเสริมสหกรณ์จะแจ้งความเอาไว้แล้วก็ตาม”
[caption id="attachment_271757" align="aligncenter" width="503"]
โดยจะนำเสนอให้เห็นถึงเส้นทางการเงินที่นายบุญส่ง หงษ์ทอง และพวกอดีตประธานสหกรณ์ได้กู้เงินแล้วอ้างว่านำไปจัดสรรที่ดินพัฒนาโครงการต่างๆทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดเพื่อให้เห็นว่ามีการเริ่มต้นอย่างไรและลงรายละเอียดเชิงลึกอย่างไร
“กลุ่มธรรมาภิบาลยังคงเดินหน้าสอบในเชิงลึกเส้นทางทุจริตเงินกว่า 2,200 ล้านบาทที่นายบุญส่งและพวกกู้ไปแต่ไม่ส่งดอกเบี้ยและเงินต้นคืนให้กับสหกรณ์ จนส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทำให้สมาชิกทั้งกว่า 6,300 คนไม่สามารถกู้เงินได้ตามปกติ โดยมีการอ้างว่านำไปลงทุนและใช้ส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ เจ้าหน้าที่การเงิน คนขับรถ และคนใกล้ชิดอีกมากมาย”
ทั้งนี้จากการติดตามเอกสารที่มีการระบุว่าเอาไปลงทุนจัดสรรที่ดินพบว่ามีโครงการอาลีบาบาและอาลีบาบา2 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการลงทุนในระดับ 200-300 ล้านบาทเท่านั้น จึงต้องไล่เส้นทางการเงินของผู้บริหารทั้งหมดตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆในเชิงลึกว่าเอาไปพัฒนาโครงการหรือใช้จ่ายในด้านใดบ้างนอกเหนือจากการนำไปจัดสรรที่ดิน
“เบื้องต้นยังพบอีกว่ามีการพัฒนาอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่อ่อนนุชซอย 50 ในหลายโครงการ นอกเหนือจากที่คนขับรถของนายบุญส่งและพวกนำไปสร้างบ้านหรูในเขตพื้นที่ทวีวัฒนา และโครงการเดอะเครปในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี อีกทั้งยังพบว่าเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายบุญส่งและผู้บริหารสหกรณ์อีกหลายคนไปสร้างวิลล่าหรูอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะต้องตามยึดคืนกันต่อไป”
นอกจากนั้นล่าสุดกรมส่งเสริมสหกรณ์โดยสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร เขตพื้นที่ 1 ยังได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังสน.บางรักต่อกรณีที่กรมได้ร้องทุกข์กล่าวโทษแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัด เพื่อให้พนักงานสอบสวนไต่สวนคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทุจริตเงินกว่า 2,200 ล้านบาทพร้อมกันนี้นายณรงค์พล พัฒนาศรี ผู้อำนวยสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพ มหานคร เขตพื้นที่ 1 ยังได้แต่งตั้งผู้ตรวจการสหกรณ์เฉพาะกิจจำนวน 6 คนเพื่อเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาทุจริตของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำกัด ต่อไปแล้ว คาดว่าจะสามารถทราบความชัดเจนทั้งหมดในสัปดาห์ต่อไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,351 วันที่ 25 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2561
