Play
Work Hard, Play Hard ทำงานให้หนัก สนุกให้สุด
หญิงแกร่งแห่งบ้านปู อินฟิเนอร์จี
การหล่อหลอมคนรุ่นใหม่จากวัฒนธรรมองค์กร จนสามารถสร้างให้เขาเติบใหญ่ในหน้าที่ และพร้อมที่จะก้าวออกจาก comfort zone ไปสู่หน้าที่ที่แตกต่าง ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งขององค์กร ที่กลุ่มบ้านปู สามารถทำได้สำเร็จ โดยเฉพาะกับหญิงแกร่ง “คุณกร - กนกวรรณ จิตต์ชอบธรรม” ที่เติบโตจากสายงานกฎหมาย แต่สามารถก้าวข้ามมาสู่ ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารหญิงคนนี้ เจ้าตัวบอกเลยว่า วัฒนธรรมองค์กร มีส่วนอย่างมาก
“เราเป็นคนในที่ถูกเลือกให้เข้ามานั่งตรงนี้...กรเชื่อว่าจุดแรก คือ บ้านปูมีค่านิยม 4 อย่าง คือ synergy การทำงาน
ร่วมกัน Innovation การที่บุคลากรต้องใฝ่หาความรู้และริเริ่มแนวคิดใหม่ๆ Integrity ความเชื่อมั่น ซื่อตรง Care การดูแลเอาใจใส่ จากค่านิยมที่บริษัทปลูกฝังดูแลพนักงานแบบนี้ มันเลยสืบเนื่องมา จนวันที่เขาชวนกรมาทำงานตรงนี้ เขาเห็นศักยภาพของเรา เขากล้าพอที่จะให้เรามูฟมา ตัวกรเองก็กล้าที่จะมูฟมา เพราะเรากล้าคิดนอกกรอบ เราไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบงานด้านกฎหมายเท่านั้น วันที่ตัดสินใจ ก็นึกถึงตรงนี้ มันเป็นทางที่น่าไปลอง”
ความโชคดีของการทำงานด้านกฎหมายที่บ้านปู ไม่ใช่แค่ทำเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย แต่ทำเป็นงานโปรเจ็กต์ เป็นกฎหมายที่เป็นงานสัญญา งานบริหารสัญญา การจัดเทรนนิ่ง งานบริหารความเสี่ยงในทุกด้านขององค์กร ทั้งบริษัทแม่และบริษัทลูก ซึ่งกฎหมายในแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งการทำงานโปรเจ็กต์ ทำให้ต้องติดต่อประสานงานกับทุกฝ่ายทั้งการเงิน งานโปรเจ็กต์ การขยายธุรกิจ จากตรงนั้นทำให้เธอได้รับการปลูกฝังมุมมองทางธุรกิจตลอดเวลา
เมื่อเข้ามารับบทบาทใหม่ ในฐานะผู้นำองค์กร “คุณกร” ยอมรับว่า มันเปลี่ยนไปเยอะมาก นอกจากการทำหน้าที่สร้างทีมใหม่ เธอยังต้องตามให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะหลังงานจากโซลาร์รูฟท็อป และเทรนด์ของการสร้างสมาร์ทคอมมิวนิตี ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งบ้านปูหล่อหลอมให้ทุกๆ ฝ่ายคิดถึงการพัฒนาพลังงาน ว่าจะไปในทิศทางไหน และจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร
“การที่เขาจะพัฒนาเราขึ้นมา เราไม่ได้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว ไม่ว่าจะทีมที่เข้ามาเสริม มีด้านเทคโนโลยี ด้านวิศวะ เข้ามาสอน และเมื่อเราสร้างบริษัทใหม่ เราต้องทำแบรนด์ ก็มีฝ่ายแบรนด์เข้ามา และเมื่อมีปัญหาก็สามารถกลับไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทแม่ได้ตลอด เมื่อมีเครื่องมือ มีคนช่วย มีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน มันทำให้ทุกคนคิดนอกกรอบได้”
การเข้ามารับหน้าที่ตรงนี้ ความท้าทาย คือ การทำงานกับทีม ที่ “คุณกร” บอกว่า สนุกมาก บรรยากาศการทำงานคือการแชร์ไอเดีย แชร์ความรู้ มีคอมเมนต์กันและกัน ซึ่งในทีมทั้งหมด 28 คน ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มี Passion เต็มที่ ทุกครั้งที่มีการประชุมเมื่อได้โปรเจ็กต์หรือโจทย์ใหม่เข้ามา ทุกคนจะระดมความคิด ช่วยกันแสดงความคิดเห็น บางครั้งจะมีทีมงานที่ลุกขึ้นมาบอกว่า...ไม่ไหวแล้ว ผมมือสั่นอยากทำมาก ตรงนั้นคือบรรยากาศการทำงานที่สนุก ทุกคนตื่นตัว และพร้อมลุย
ในฐานะหัวหน้าทีม ที่ทำหน้าที่คุมคนรุุ่นใหม่ ที่มีวัยใกล้เคียงกัน “คุณกร” บอกว่า จะไม่มีใครยอมใคร เราไม่ใช่แค่รับโจทย์แล้วไปทำ เรารับโจทย์แล้ว เราคุยกันยาวทุกที เราเอาแพสชันมาชนกับแพสชันแต่ในฐานะหัวหน้าทีม สิ่งที่เธอต้องทำคือ การหล่อหลอมไอเดียและแพชั่นของลูกทีมให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยการพูดคุยกันว่า สิ่งที่ปั้นมาจะออกมาในรูปแบบไหน อะไรควรทำก่อน หรือทำหลัง ลำดับมาเป็นขั้นตอน
“บางคนอาจจะรู้สึกว่า ถ้าคนทำงานเป็นคนรุ่นใหม่หมด มันคุมยาก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ขอกลับไปที่ค่านิยม 4 อย่าง มันก็ทำให้เรามีกรอบบางๆ เวลาเราถกเถียงกัน ก็ทำให้เราโฟกัสได้ ในวัฒนธรรมองค์กร 4 อย่างทุกคนเห็นตรงกัน แต่เวลาที่เราใช้จริง เวลาที่เราจะแคร์ หรือจะอินโนเวชัน...การที่เราดูแลทีมตรงนี้ คือ เราต้องมี commitment เดียวกัน วัตถุประสงค์และบรรยากาศการทำงาน มันทำให้เราแพสชันอยู่แล้ว คุณอยากเป็นทีมสุดโต่งก็ได้ Integrity
สุดโต่งก็ได้ แต่เราต้องมี commitment สุดท้ายคือ ต้องตอบโจทย์องค์กร ตอบโจทย์ในทีม”
การดูแลคนรุ่นใหม่ สำหรับบ้านปู มีความยืดหยุ่นทั้งเรื่องเวลา และสถานที่ทำงาน แต่ทุกคนรับรู้ด้วยตัวเองว่า ความรับผิดชอบต่องานคือเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้น เวลา และสถานที่ทำงานจึงไม่ใช่ข้อจำกัดของการทำให้งานเดินหน้า “คุณกร” บอกว่า เธอได้รับการดูแลจากหัวหน้ามาเช่นนี้ เธอเองก็ดูแลลูกทีมในลักษณะเดียวกัน โดยโจทย์ที่ท้าทายของการทำงานตรงนี้ คือ ความต้องการที่อยากจะให้การใช้พลังงานสะอาดแบบแพร่หลายเกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้น โจทย์ของทุกคนคือการเติมสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้พลังงาน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี แบตเตอรี่ หรือ ระบบเก็บพลังงาน ซึ่งทั้งหมดคือ ตัวกระตุ้นและผลักดันให้พลังงานสะอาดเหล่านี้แพร่หลายได้จริง
โดยส่วนของนักบริหารหญิงคนนี้ คือ Work Hard, Play Hard ทำงานให้หนัก สนุกให้สุด เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไร คือ ลุยไปข้างหน้า แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาพัก คือ พัก สนุกให้เต็มที่ เพราะวิธีการทำงานของคนบ้านปู คือ ทำงานได้ทุกที่ โดยไม่ต้องกำหนดกรอบว่า ต้องติดต่อได้ แต่ทุกคนพร้อมที่จะติดต่อ เมื่อมีงานที่ต้องสะสาง เมื่องานเดินหน้าอยู่ ก็คือ ต้องทำ
“คุณกร” บอกว่า เป้าธุรกิจของบ้านปูฯ ชัดเจน คือการสร้างสมาร์ทคอมมิวนิตี และพลังงานไฟฟ้า 300 เมกะวัตต์ ในปี 2020 ซึ่งตอนนี้ได้มาแล้ว 109.3 เมกะวัตต์ ซึ่งเธอบอกว่า เธอยังสนุกที่จะพาทีมไปตอบโจทย์ที่ท้าทายใหม่ๆ โดยทั้งทีมทำงานมีความรู้สึกเหมือนกันว่า การทำงานตรงนี้ยังมีอะไรใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่รู้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ การเร่งเรียนรู้ เร่งพัฒนา การทำสิ่งใหม่ๆ มาใช้กับทีมกับลูกค้า
นั่นคือสิ่งที่ที่ “คุณกร” จะนำพาทีมของเธอออกไปไขว่คว้าหาให้เจอ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่38ฉบับ 3370 วันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561
การหล่อหลอมคนรุ่นใหม่จากวัฒนธรรมองค์กร จนสามารถสร้างให้เขาเติบใหญ่ในหน้าที่ และพร้อมที่จะก้าวออกจาก comfort zone ไปสู่หน้าที่ที่แตกต่าง ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งขององค์กร ที่กลุ่มบ้านปู สามารถทำได้สำเร็จ โดยเฉพาะกับหญิงแกร่ง “คุณกร - กนกวรรณ จิตต์ชอบธรรม” ที่เติบโตจากสายงานกฎหมาย แต่สามารถก้าวข้ามมาสู่ ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารหญิงคนนี้ เจ้าตัวบอกเลยว่า วัฒนธรรมองค์กร มีส่วนอย่างมาก
“เราเป็นคนในที่ถูกเลือกให้เข้ามานั่งตรงนี้...กรเชื่อว่าจุดแรก คือ บ้านปูมีค่านิยม 4 อย่าง คือ synergy การทำงาน
ร่วมกัน Innovation การที่บุคลากรต้องใฝ่หาความรู้และริเริ่มแนวคิดใหม่ๆ Integrity ความเชื่อมั่น ซื่อตรง Care การดูแลเอาใจใส่ จากค่านิยมที่บริษัทปลูกฝังดูแลพนักงานแบบนี้ มันเลยสืบเนื่องมา จนวันที่เขาชวนกรมาทำงานตรงนี้ เขาเห็นศักยภาพของเรา เขากล้าพอที่จะให้เรามูฟมา ตัวกรเองก็กล้าที่จะมูฟมา เพราะเรากล้าคิดนอกกรอบ เราไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบงานด้านกฎหมายเท่านั้น วันที่ตัดสินใจ ก็นึกถึงตรงนี้ มันเป็นทางที่น่าไปลอง”
ความโชคดีของการทำงานด้านกฎหมายที่บ้านปู ไม่ใช่แค่ทำเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย แต่ทำเป็นงานโปรเจ็กต์ เป็นกฎหมายที่เป็นงานสัญญา งานบริหารสัญญา การจัดเทรนนิ่ง งานบริหารความเสี่ยงในทุกด้านขององค์กร ทั้งบริษัทแม่และบริษัทลูก ซึ่งกฎหมายในแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกัน ซึ่งการทำงานโปรเจ็กต์ ทำให้ต้องติดต่อประสานงานกับทุกฝ่ายทั้งการเงิน งานโปรเจ็กต์ การขยายธุรกิจ จากตรงนั้นทำให้เธอได้รับการปลูกฝังมุมมองทางธุรกิจตลอดเวลา
เมื่อเข้ามารับบทบาทใหม่ ในฐานะผู้นำองค์กร “คุณกร” ยอมรับว่า มันเปลี่ยนไปเยอะมาก นอกจากการทำหน้าที่สร้างทีมใหม่ เธอยังต้องตามให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะหลังงานจากโซลาร์รูฟท็อป และเทรนด์ของการสร้างสมาร์ทคอมมิวนิตี ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งบ้านปูหล่อหลอมให้ทุกๆ ฝ่ายคิดถึงการพัฒนาพลังงาน ว่าจะไปในทิศทางไหน และจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร
“การที่เขาจะพัฒนาเราขึ้นมา เราไม่ได้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว ไม่ว่าจะทีมที่เข้ามาเสริม มีด้านเทคโนโลยี ด้านวิศวะ เข้ามาสอน และเมื่อเราสร้างบริษัทใหม่ เราต้องทำแบรนด์ ก็มีฝ่ายแบรนด์เข้ามา และเมื่อมีปัญหาก็สามารถกลับไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทแม่ได้ตลอด เมื่อมีเครื่องมือ มีคนช่วย มีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน มันทำให้ทุกคนคิดนอกกรอบได้”
การเข้ามารับหน้าที่ตรงนี้ ความท้าทาย คือ การทำงานกับทีม ที่ “คุณกร” บอกว่า สนุกมาก บรรยากาศการทำงานคือการแชร์ไอเดีย แชร์ความรู้ มีคอมเมนต์กันและกัน ซึ่งในทีมทั้งหมด 28 คน ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มี Passion เต็มที่ ทุกครั้งที่มีการประชุมเมื่อได้โปรเจ็กต์หรือโจทย์ใหม่เข้ามา ทุกคนจะระดมความคิด ช่วยกันแสดงความคิดเห็น บางครั้งจะมีทีมงานที่ลุกขึ้นมาบอกว่า...ไม่ไหวแล้ว ผมมือสั่นอยากทำมาก ตรงนั้นคือบรรยากาศการทำงานที่สนุก ทุกคนตื่นตัว และพร้อมลุย
ในฐานะหัวหน้าทีม ที่ทำหน้าที่คุมคนรุุ่นใหม่ ที่มีวัยใกล้เคียงกัน “คุณกร” บอกว่า จะไม่มีใครยอมใคร เราไม่ใช่แค่รับโจทย์แล้วไปทำ เรารับโจทย์แล้ว เราคุยกันยาวทุกที เราเอาแพสชันมาชนกับแพสชันแต่ในฐานะหัวหน้าทีม สิ่งที่เธอต้องทำคือ การหล่อหลอมไอเดียและแพชั่นของลูกทีมให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยการพูดคุยกันว่า สิ่งที่ปั้นมาจะออกมาในรูปแบบไหน อะไรควรทำก่อน หรือทำหลัง ลำดับมาเป็นขั้นตอน
“บางคนอาจจะรู้สึกว่า ถ้าคนทำงานเป็นคนรุ่นใหม่หมด มันคุมยาก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ขอกลับไปที่ค่านิยม 4 อย่าง มันก็ทำให้เรามีกรอบบางๆ เวลาเราถกเถียงกัน ก็ทำให้เราโฟกัสได้ ในวัฒนธรรมองค์กร 4 อย่างทุกคนเห็นตรงกัน แต่เวลาที่เราใช้จริง เวลาที่เราจะแคร์ หรือจะอินโนเวชัน...การที่เราดูแลทีมตรงนี้ คือ เราต้องมี commitment เดียวกัน วัตถุประสงค์และบรรยากาศการทำงาน มันทำให้เราแพสชันอยู่แล้ว คุณอยากเป็นทีมสุดโต่งก็ได้ Integrity
สุดโต่งก็ได้ แต่เราต้องมี commitment สุดท้ายคือ ต้องตอบโจทย์องค์กร ตอบโจทย์ในทีม”
การดูแลคนรุ่นใหม่ สำหรับบ้านปู มีความยืดหยุ่นทั้งเรื่องเวลา และสถานที่ทำงาน แต่ทุกคนรับรู้ด้วยตัวเองว่า ความรับผิดชอบต่องานคือเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้น เวลา และสถานที่ทำงานจึงไม่ใช่ข้อจำกัดของการทำให้งานเดินหน้า “คุณกร” บอกว่า เธอได้รับการดูแลจากหัวหน้ามาเช่นนี้ เธอเองก็ดูแลลูกทีมในลักษณะเดียวกัน โดยโจทย์ที่ท้าทายของการทำงานตรงนี้ คือ ความต้องการที่อยากจะให้การใช้พลังงานสะอาดแบบแพร่หลายเกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้น โจทย์ของทุกคนคือการเติมสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้พลังงาน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี แบตเตอรี่ หรือ ระบบเก็บพลังงาน ซึ่งทั้งหมดคือ ตัวกระตุ้นและผลักดันให้พลังงานสะอาดเหล่านี้แพร่หลายได้จริง
โดยส่วนของนักบริหารหญิงคนนี้ คือ Work Hard, Play Hard ทำงานให้หนัก สนุกให้สุด เมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอะไร คือ ลุยไปข้างหน้า แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาพัก คือ พัก สนุกให้เต็มที่ เพราะวิธีการทำงานของคนบ้านปู คือ ทำงานได้ทุกที่ โดยไม่ต้องกำหนดกรอบว่า ต้องติดต่อได้ แต่ทุกคนพร้อมที่จะติดต่อ เมื่อมีงานที่ต้องสะสาง เมื่องานเดินหน้าอยู่ ก็คือ ต้องทำ
“คุณกร” บอกว่า เป้าธุรกิจของบ้านปูฯ ชัดเจน คือการสร้างสมาร์ทคอมมิวนิตี และพลังงานไฟฟ้า 300 เมกะวัตต์ ในปี 2020 ซึ่งตอนนี้ได้มาแล้ว 109.3 เมกะวัตต์ ซึ่งเธอบอกว่า เธอยังสนุกที่จะพาทีมไปตอบโจทย์ที่ท้าทายใหม่ๆ โดยทั้งทีมทำงานมีความรู้สึกเหมือนกันว่า การทำงานตรงนี้ยังมีอะไรใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่รู้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ การเร่งเรียนรู้ เร่งพัฒนา การทำสิ่งใหม่ๆ มาใช้กับทีมกับลูกค้า
นั่นคือสิ่งที่ที่ “คุณกร” จะนำพาทีมของเธอออกไปไขว่คว้าหาให้เจอ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่38ฉบับ 3370 วันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561
