SAWAD พร้อมปรับตัว หาก พ.ร.บ.non-bank บังคับใช้ ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 20-30% ขยายสาขาเพิ่มเป็น 2,706 สาขา ในสิ้นปีนี้ โบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมาย 40-49 บาท
จากกรณีที่ พ.ร.บ.กำกับดูแล non-bank ยังไม่ประกาศใช้ และอยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า จะออกหลักเกณฑ์การให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถสำหรับรายย่อย และย้ำว่า ควรได้เห็นภายในปี 2561 เนื่องจากเกี่ยวข้องกับผู้บริโภควงกว้าง
น.ส.ธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ธุรกิจหลักของบริษัท คือ การรับจำนำทะเบียนรถ บริษัทได้ดำเนินการผ่านบริษัทลูก คือ บมจ.เงินทุนศรีสวัสดิ์ หรือ BFIT ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีผลกระทบใดต่อบริษัท
[caption id="attachment_314331" align="aligncenter" width="336"]
ธิดา แก้วบุตตา[/caption]
น.ส.ธิดา กล่าวว่า การที่จะมีผู้ดูแลกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับกลุ่มธุรกิจจำนำทะเบียนรถนั้น บริษัทมองว่า เป็นเรื่องดี เนื่องจากทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีระเบียบแบบแผนชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่ม SAWAD มั่นใจว่า ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากกฎระเบียบที่ทางกลุ่มยึดถือปฏิบัติในการทำธุรกิจนั้น มีความชัดเจนไม่ครุมเครือ และหากมีหน่วยราชการเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด บริษัทคาดว่า ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
"บริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว โครงสร้างการทำธุรกิจของกลุ่ม SAWAD มีความชัดเจน จึงมั่นใจว่า ไม่ได้รับผลกระทบและหากจะมีกฎเพิ่มเติม เราก็พร้อมที่จะนำไปปฏิบัติ" น.ส.ธิดา กล่าว
ภายหลังจากเข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน BFIT ทางบริษัทได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา
น.ส.ธิดา กล่าวว่า ปัจจุบัน ได้ปรับโครงสร้างแล้วเสร็จ การปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันจะทำตามเกณฑ์ของใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุน การปล่อยสินเชื่อไม่มีหลักประกัน หรือ สินเชื่อส่วนบุคคล จะทำภายใต้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์
ปัจจุบัน มีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 24,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันประมาณ 70% , สินเชื่อเช่าซื้อ 10% และสินเชื่อไม่มีหลักประกัน 10%
"ในปีนี้ บริษัทจะเน้นการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้และจะเปิดสาขาเพิ่ม โดยในปลายปีนี้ จำนวนสาขาจะเพิ่มจาก 2,606 สาขา เป็น 2,706 สาขา พอร์ตสินเชื่อจะเติบโตประมาณปีละ 20-30% และ ณ สิ้นไตรมาส 2/2561 มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL 5.45% บริษัทตั้งเป้าว่า NPL จะลดลงเหลือ 4.0% ในปลายปีนี้"
"หลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจในกลุ่มเสร็จเรียบร้อย บริษัทจะมุ่งสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมให้บริการที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า เพื่อรองรับการแข่งขันที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า"
……………….
เซกชัน : ตลาดทุน โดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,399 วันที่ 9-12 ก.ย. 2561 หน้า 17
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
SAWAD ปล่อยสินเชื่่อพุ่งหนุน Q3 กำไร 621 ล้าน โต 22%
●
SAWAD กำไรโต65%เดินหน้าขยายลงทุนลาว-เวียดนาม