ความรู้สึก
"ถูกที่ถูกเวลา-ถูกฝาถูกตัว" ได้เกิดขึ้นแล้วกับนักบริหารหนุ่ม
"ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง" ทายาทรุ่นที่ 2 ของเจ้าของ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ที่คนไทยคุ้นเคยกัน ภายใต้แบรนด์
'ปุ้มปุ้ย' คนหนุ่มมากฝีมืออีกราย ที่เข้าร่วมกับ
"พรรคพลังประชารัฐ" ตัวเลือกแรกที่เขาตัดสินใจใช้เป็น
"ประตู" เปิดเข้าสู่ถนนการเมืองอย่างเต็มตัว
"สิ่งที่ผมทำมาตลอด ทั้งเรื่องของครอบครัว เรื่องของตัวเอง เรื่องของสังคมเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะทำ ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเมืองเลย เมื่อมีโอกาสได้มาร่วมกิจกรรมกับคนรุ่นใหม่ของพลังประชารัฐ ทำให้เห็นว่า เราน่าจะช่วยพัฒนาประเทศร่วมกัน ก้าวข้ามสิ่งขัดแย้งหลาย ๆ เรื่องไปได้
ที่นี่ผมได้พบกับคนที่มีแนวคิดคล้ายกัน คิดเหมือน ๆ กัน ทุกคนเชื่อเหมือนกัน อยากไปในทางเดียวกัน เป็นแรงเคลื่อนที่อยากทำให้ประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิม เห็นตรงกันว่า ประเทศไทยสวยงาม ยังมีอีกมากให้พัฒนา
และวันนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม พวกเราเป็นคนรุ่นใหม่ทางด้านการเมือง ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ไม่เคยมีโอกาสทำงานการเมืองอาชีพมาก่อน เรามาเพื่อที่จะใช้สิ่งที่คิดว่าจะดี เชื่อว่าจะได้ใช้ความรู้ความคิดที่ทำอยู่ในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์"
"ดร.ไกรเสริม" เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้สร้างสรรค์ธุรกิจนวัตกรรม
"ไทย ดิลิเชียส คัมพานี ลิมิเท็ด" ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นกรรมการผู้จัดการ
"ไทย ฟู้ด ควอลลิตี้ คัมพานี ลิมิเท็ด"
ในปี 2556 เขาได้ก่อตั้งโครงการนวัตกรรมแห่งชาติ-ไทย ดิลิเชียส ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ได้เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการด้านเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2558 และในปีนี้ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายทอดความรู้รับหน้าที่เป็น
"พี่เลี้ยง" ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรม
"อะกริฟู้ดเทคโปรแกรม" ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติด้วย
ช่วงหนึ่งของการสนทนา
"ไกรเสริม" ได้สะท้อนหลักคิดที่น่าสนใจ โดยเปรียบเทียบ
"การทำธุรกิจ" กับ
"การเมืองไทย" ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ว่า มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน การทำธุรกิจหากยังทำอย่างที่เคยเป็น ทำอย่างที่เคยทำ โดยไม่คิดพัฒนาหรือทำสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ธุรกิจก็ไปไม่รอด ไม่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับงานการเมืองที่ไม่อาจยํ่าอยู่กับที่ได้
"การเมืองยุคใหม่ คนรุ่นใหม่ต้องเข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมเพื่อเชื่อมอนาคตเข้ากับการพัฒนาประเทศให้ไปในทิศทางที่จับต้องได้ เดินไปในทิศทางที่ดี ที่สำคัญต้องก้าวข้ามสิ่งที่เคยเป็น ต้องไม่ทำอะไรแบบเดิม ต้องทำงานช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า
คนรุ่นใหม่มีหลายแบบ สำหรับผมแล้ว สิ่งที่เคยเกิดผลกระทบหรือเป็นอุปสรรค ผมไม่สนใจ เพราะวันนี้พวกเรามีโอกาสได้เข้ามาเพื่อที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นกับประเทศ
สำหรับเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว พวกเขาต้องรู้สิทธิ ความรับผิดชอบ หน้าที่พลเมืองที่ดี จึงอยากฝากคนรุ่นใหม่ให้ระลึกถึงเรื่องนี้ มองทางเลือกที่ดีที่สุด การมองแบบไปเรื่อย ๆ ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น จำเป็นต้องมองว่า ทำแล้วเกิดความสงบเรียบร้อย แล้วใช้เป็นโอกาสที่จะพัฒนาประเทศไปข้างหน้า"
ถามถึงอนาคตทางการเมือง ถ้าให้ฝันอยากนั่ง
"เก้าอี้รัฐมนตรี" กระทรวงไหนนั้น ดร.ไกรเสริม ตอบกลับมาว่า เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก เพราะยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสและได้เรียนรู้มาก่อน ผมทำงานบริหารมาตลอด ก็คงอยากทำงานบริหาร หรือ งานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจการค้า เพราะเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัด
แต่ปัจจุบัน ทุกภาคส่วนทำงานเชื่อมโยงกัน ไม่สามารถแยกส่วนได้ จำเป็นต้องผสมผสานหลาย ๆ เรื่องเข้าด้วยกัน ทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วมถึงจะประสบความสำเร็จ
ก่อนจากกัน "ดร.ไกรเสริม" ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นกับเราว่า วันนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี เมื่อมีโอกาส ประตูเปิดรับ เขาก็พร้อมที่จะลุยบนถนนสายนี้แล้วอย่างเต็มกำลัง
คอลัมน์ : หน้าใหม่การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,415 วันที่ 4-7 พ.ย.2561 หน้า 14