จับ 'หัวเว่ย' สกัด 'จีน' ยึด "5จี"

16 ธ.ค. 2561 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2561 | 15:26 น.
161261-1508

เอกชนชี้! ผู้บริหารหัวเว่ยถูกจับ เบื้องหลังสกัดจีนครองเจ้าเทคโนโลยี "5จี" โลก เด้ง 2 ช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองสหรัฐฯ ถกจีน บีบรับเงื่อนไขสงครามการค้า ... สรท. สั่งพร้อมรับมือเต็มพิกัด ขณะจีนเอาคืนมะกันยกแรก ห้ามขาย 'ไอโฟน' 7 รุ่น

การจับกุมตัว นางเมิ่ง หวันโจว (Meng Wanzhou) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน หรือ CFO บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีฯ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจด้านสื่อสารจีน ของแคนาดา ตามคำขอของสหรัฐอเมริกา และให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า บริษัท สกายคอมฯ บริษัทลูกของหัวเว่ยได้ทำธุรกรรมโดยละเมิดการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีต่ออิหร่านนั้น

 

[caption id="attachment_362083" align="aligncenter" width="503"] กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย[/caption]

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" โดยมองกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ที่สหรัฐฯ และจีนแข่งกันเป็นใหญ่ของโลก โดยสหรัฐฯ ห้ามค้าขายกับอิหร่าน แต่จีนไม่ฟัง เลยถูกสั่งสอน ซึ่งเวลานี้ ทั้ง 2 ประเทศ กำลังงัดข้อประลองกำลังว่า ใครใหญ่กว่า หรือ มีอำนาจต่อรองมากกว่า ส่วนกรณีสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทั้ง 2 ฝ่าย ประลองกำลังกัน ซึ่งเวลานี้ แม้ทั้ง 2 ฝ่าย จะพักรบชั่วคราว และเปิดเจรจาต่อรองเพื่อคลี่คลายปัญหากันใน 90 วัน ซึ่งต้องดูต่อไปว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร

"ช่วง 90 วัน ที่เขาเจรจากัน การส่งออกของไทยคงไม่กระทบมาก แต่ผมมองแง่บวก สงครามการค้าจะทำให้จีนมาลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะหากยังอยู่ในประเทศ เขาก็ไม่มีความมั่นคง"

นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจับกุมตัวผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย ส่วนหนึ่งชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯ เกรงกลัวธุรกิจด้าน 5จี ของจีน จะครองตลาดโลกล้ำหน้าเหนือสหรัฐฯ เพราะปีนี้ หัวเว่ยขายโทรศัพท์มือถือได้มากกว่าไอโฟน เป็นอันดับ 1 สำหรับตลาดอุปกรณ์โครงสร้างเครือข่ายโทรคมนาคมของโลก มีเทคโนโลยี 5จี เหนือกว่าสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ก็กล่าวหาโดยไร้หลักฐานว่า เทคโนโลยี 5จี ของหัวเว่ย อาจเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลจีนใช้ล้วงความลับของนานาประเทศได้ จึงได้ชักชวนออสเตรเลีย อังกฤษ อียู และญี่ปุ่น แบนการใช้สินค้าของหัวเว่ย ถือเป็นการกีดกันการค้า เพื่อขัดขวางไม่ให้ธุรกิจของหัวเว่ยเติบโตได้ ดังนั้น สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จึงยังต้องดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ และในรูปแบบต่าง ๆ อีกนานหลายปี การพักรบ 90 วัน จึงจะไม่ส่งผลให้เกิดความตกลงระหว่างกันได้

 

[caption id="attachment_362084" align="aligncenter" width="503"] เมิ่ง หวันโจว (Meng Wanzhou) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน หรือ CFO บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีฯ เมิ่ง หวันโจว (Meng Wanzhou) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน หรือ CFO บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีฯ[/caption]

"เรื่องหัวเว่ยจะทำให้สหรัฐฯ ได้เปรียบจีนขึ้นมาทันที เพราะสามารถไปเพิ่มแรงกดดันไปให้จีนยอมรับเงื่อนไขของสหรัฐฯ เพื่อให้นางเมิ่งได้รับการปล่อยตัว หากจีนทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ก็จะเสียประโยชน์ด้านการค้ามหาศาล แต่หากจีนไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง ก็จะเสียศักดิ์ศรีที่คนของตัวเองถูกจับ ซึ่งไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นถึงซีเอฟโอของบริษัทใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน"

อย่างไรก็ดี สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่คาดจะยังดำรงอยู่ต่อไป จะมีผลกระทบกับไทยทั้งด้านบวกและด้านลบ ด้านบวก คือ คาดจะมีการลงทุนในไทยของจีนและจากนานาประเทศที่ผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ มากขึ้น แต่เรื่องการลงทุนของต่างชาตินี้ เวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงสิงคโปร์ จะได้เปรียบไทย เพราะเป็นสมาชิกของความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งจะดึงการลงทุนได้มากกว่า ส่วนด้านลบ คือ จะทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง และแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกอันเกิดจากปัญหาหนี้เสียในจีนและในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศในสหภาพยุโรป (อียู)


xi-trump

นายชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มองต่างมุมว่า การจับกุมผู้บริหารหัวเว่ยในครั้งนี้ คงไม่มีผลต่อการเจรจาต่อรองทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ต้องดำเนินการต่อไปใน 90 วัน ส่วนการกดดันสหรัฐฯ ให้ปล่อยตัวผู้บริหารของหัวเว่ยก็ว่ากันไป ทั้งนี้ การเจรจาต่อรองเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ-จีน คาดจะเห็นภาพทิศทางที่ชัดเจนในต้นปีหน้า ซึ่งเมื่อเห็นทิศทางที่ชัดเจนแล้ว ทาง สรท. จะได้ประชุมหารือสมาชิกเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุกและรับ เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยต่อไป


140129

สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2561 ศาลเมืองฟูโจวของจีนได้มีคำตัดสินให้ บริษัท ควอลคอม อิงค์ฯ ผู้ผลิตชิปรายใหญ่สำหรับสมาร์ทโฟน ชนะคดีฟ้องร้อง บริษัท แอปเปิล อิงค์ฯ กรณีละเมิดสิทธิบัตร 2 ฉบับ ของควอลคอม โดยศาลมีคำสั่งให้บริษัทในเครือของแอปเปิล 4 บริษัทในจีน ห้ามนำเข้าและจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ‘ไอโฟน’ 7 รุ่น เป็นการชั่วคราว ได้แก่ ไอโฟน 6s, ไอโฟน 6s Plus, ไอโฟน 7, ไอโฟน 7 Plus, ไอโฟน 8, ไอโฟน 8 Plus และไอโฟน X (ไอโฟนทั้ง 7 รุ่น มีส่วนแบ่งตลาด 10-15% ของยอดขายไอโฟนทั้งหมดในจีน) นับเป็นความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณีพิพาทจากสิทธิบัตรและค่าลิขสิทธิ์ของ 2 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ถือเป็นสัญญาณการเอาคืนสหรัฐฯ ยกแรกของจีนได้เริ่มขึ้นแล้ว ในกรณีจับผู้บริหารหัวเว่ย


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,426 วันที่ 13 - 15 ธ.ค. 2561 หน้า 01+15

ข่าวน่าสนใจ :
คำต่อคำ | แถลงการณ์โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน โต้กระแสโจมตี 'หัวเว่ย'
'ทรัมป์' แบไต๋ให้จีนต่อรอง! แคนาดายอมให้ 'หัวเว่ย' ประกันตัว


เพิ่มเพื่อน
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก