ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

14 พ.ค. 2562 | 09:50 น.

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญสุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”  พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี โดยในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในช่วงวันที่ ๔-๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา นอกจากห่างหายจากพระราชพิธีครั้งก่อนกว่า ๖๙ ปี ได้มีเรื่องราวสำคัญหลากหลายเหตุการณ์ที่ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของชาติไทย  ควรค่าแก่การบันทึกและเรียนรู้เพื่อร่วมกันสืบสานโบราณราชประเพณีอันงดงามนี้ให้คงอยู่สืบไป ทางทีมงานจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตรวบรวม ๑๐ เหตุการณ์สำคัญในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๑.พระปฐมบรมราชโองการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการขณะประทับเหนือพระที่นั่งภัทรบิฐภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ภายในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ความว่า 

“เราจะสืบสานรักษาและต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” 

ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้  อีกทั้งยังเป็นแนวทางการสืบสานพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ ในการทรงงานและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยาม

ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์จะพระราชทาน พระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งแสดงออกถึงพระราชปณิธาน ในฐานะทรงเป็นผู้รับพระราชภาระแห่งบ้านเมือง 

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๒.พระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระราชินี

เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศ พระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระราชินี ให้ทรงดำรงราชฐานันดรศักดิ์ เป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” โดยในการพระราชพิธี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จสู่หน้าพระที่นั่งภัทรบิฐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งนํ้าพระมหาสังข์ พระราชทานใบมะตูม
ทรงเจิม และพระราชทานพระสุพรรณบัฏ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นโบราณมงคลนพรัตน์ราชวราภรณ์ และเครื่องราชอิสริยยศราชูปโภค แก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๓.ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ เสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงฉลองพระองค์ครุย เสด็จออกพระทวารเทวราชมเหศวรมายังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ในการเสด็จออกมหาสมาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสตอบพระบรมวงศ์และประมุข ๓ ฝ่ายใจความว่า 

“ข้าพเจ้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาอยู่ในท่ามกลางมหาสมาคม พรั่งพร้อมด้วยทุกท่านจากทุกสถาบันสำคัญของชาติ และได้รับคำอวยพรอันเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต ขอขอบพระทัยและขอบใจในคำอำนวยพรและนํ้าใจไมตรีของทุกท่านเป็นอย่างมาก

ในโอกาสนี้ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกท่านทุกฝ่ายในมหาสมาคมนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคนได้ตั้งความปรารถนาร่วมกันกับข้าพเจ้า ในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติงานตามฐานะและหน้าที่ของตนโดยยึดเอาประโยชน์ คือความเจริญมั่นคงของประเทศชาติ และความผาสุกร่มเย็นของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด

ขอคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาทุกท่านให้ประสบความสุขความเจริญ พร้อมด้วยพรอันเป็นมงคลทุกประการ”

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒ ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๔.เสด็จทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก - เฉลิมพระราชมณเฑียร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จโดยพระราชยานพุดตานทอง พร้อมด้วยขบวนพระบรมราชอิสริยยศริ้วขบวนที่ ๒ อย่างงดงาม เพื่อทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก ใจความว่า “ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ แต่เดิมมาข้าพเจ้าได้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส และได้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ด้วยวิธีนั้น ๆ อยู่แล้ว ฉะนั้น บัดนี้ข้าพเจ้าได้เถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว จึงขอมอบตัวแด่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จะได้รับการจัดการให้ความคุ้มครองรักษาพระพุทธศาสนาโดยชอบธรรมตลอดไป ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ขอพระสงฆ์จงจำไว้ด้วยดีว่า ข้าพเจ้าเป็นพุทธศาสนูปถัมภกเถิด” 

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร และพระบรมอัฐิ พระอัฐิ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และในช่วงคํ่าในหลวงทรงประกอบพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรและเถลิงพระแท่นราชบรรจถรณ์  ซึ่งเปรียบเสมือนการขึ้นบ้านใหม่ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ข้าราชบริพารฝ่ายหน้าได้เชิญเครื่องราชูปโภคและสิ่งมงคล รวมถึงสัตว์อย่างวิฬาร์หรือแมว และไก่ขาว เข้าพิธี

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๕.พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์

ในช่วงเช้าของวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ รวม ๑๐ พระองค์ ดังนี้

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒนรัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ

และหนึ่งในเหตุการณ์ที่สร้างความปลาบปลื้มปีติให้กับพสกนิกรชาวไทย คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๖.ภาพประวัติศาสตร์ ขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค

จากนั้นในช่วงเย็นของวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุยเต็มยศจักรี สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรีประทับพระราชยานพุดตานทอง ในขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค เคลื่อนออกจากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทไปยังวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ เพื่อให้ประชาชน เฝ้าฯชมพระบารมี ขณะขบวนเคลื่อนจากพระบรมมหาราชวัง พระองค์ทรงแย้มพระสรวลให้กับพสกนิกรชาวไทยที่มารอเข้าเฝ้าฯ สร้างความปีติให้กับประชาชนชาวไทยได้อย่างสุดซึ้ง  ซึ่งตลอดสองข้างทางพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ารวมใจกันใส่เสื้อเหลืองพร้อมกับเปล่งคำว่า “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องตลอดเส้นทาง 

สำหรับริ้วขบวนยึดแบบโบราณราชประเพณี และพระราชนิยม  โดยในการนี้จัดกำลังเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ ขบวนหน้า เป็นขบวนนำ มีตำรวจม้านำ วงดุริยางค์ บก.กองผสม ที่มี พล.ต.ทรงวิทย์  หนุนภักดี ผบ.พล.๑ รอ. และรอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เป็น ผบ.กองผสม ตามด้วยกองพันทหารเกียรติยศนำ ร.๑ รอ. ขบวนกลาง หรือขบวนเสด็จฯ ประกอบด้วย นำริ้ว สารวัตรกระบวน ประตูหน้าซ้ายขวา ธง ๓ ชายซ้ายขวา กลองมโหระทึก จ่าปี่ จ่ากลอง สารวัตรแตร กลองชนะแดงลายทอง กลองทอง แตรฝรั่ง แตรงอน สังข์ กลองชนะเขียวลายเงิน กลองเงิน กำกับพระแสงระหว่างเครื่องหน้าฉัตรเครื่องสูงหักทองขวาง พระเกาวพ่าห์ พระเสมาธิปัต พระฉัตรชัย เจ้าพนักงานกลับสัญญาณ ผู้บอกกระบวน พราหมณ์เป่าสังข์

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒ ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๗.เสด็จฯเคียงพระราชยาน

  สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี ในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศนายทหารพิเศษมหาดเล็กรักษาพระองค์ เสด็จฯ เคียงพระราชยานในขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคตลอดเส้นทาง โดยสมเด็จพระราชินีเสด็จฯเคียงพระราชยานในขบวนที่เบื้องซ้าย ส่วนสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เสด็จเคียงพระราชยานในขบวนที่เบื้องขวา ถือเป็นภาพที่สร้างความปลื้มปีติและอิ่มเอมใจแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าที่ได้เห็น 

พร้อมกันนี้ระหว่างที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่านพลับพลาที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ ตรงบริเวณสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า ถนนราชดำเนินนอก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทอดพระเนตรริ้วขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๘.พระธรรมเทศนา “ทศพิธราชธรรม”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ถวายทศพิธราชธรรมจริยากถา หรือธรรมะ ๑๐ ประการที่พระราชาพึงทรงยึดถือปฏิบัติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหนึ่งในธรรมะ ๑๐ ประการที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงแสดง คือ มัททวะ ความอ่อนโยน พระมหากษัตริย์พึงมีพระราชอัธยาศัยอ่อนโยน ละมุนละม่อม มีความอ่อนน้อม ไม่ถือพระองค์ด้วยความดื้อรั้น เมื่อมีผู้กราบบังคมทูลพระกรุณาด้วยเหตุผลของบัณฑิต ก็ควรทรงพึงสดับตรับฟังโดยถี่ถ้วน

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๙.ถวายพระพุทธรูป

สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคครั้งนี้ มีการถวายพระพุทธรูปสำคัญแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยกัน ๒ องค์ โดยที่วัดราชบพิธฯ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงถวายพระพุทธรูปทองคำปางห้ามญาติ ประจำวันจันทร์อันเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าว สมเด็จพระสังฆราชทรงประกอบพิธีเททองหล่อ มีความสูงจากพระบาทจรดพระรัศมีรวม ๑๐ นิ้วเท่าเลขรัชกาล ศิลปะรัตนโกสินทร์ พร้อมฉัตรทองคำ ๗ ชั้นกางกั้น นํ้าหนักทองคำซึ่งมีสาธุชนผู้จงรักภักดีร่วมถวายโดยเสด็จพระราชกุศลจัดสร้างองค์พระและฉัตรรวมกว่า ๕ กิโลกรัม ถวายเป็นของเฉลิมพระขวัญในมหามงคลสมัยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระราชวินิจฉัยแบบพระพุทธรูป พร้อมพระราชทานแผ่นทองคำที่ทรงเจิมและทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐานแล้ว  เพื่อเชิญมาหล่อพระพุทธรูปดังกล่าวด้วย 

ส่วนพระพุทธรูปอีกองค์เป็นพระพุทธรูป  ที่สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ถวาย คือ พระพุทธรูปปางประทานพร ภปร.นํ้าหนัก ๑๒.๕  กิโลกรัม พร้อมสุวรรณฉัตรหุ้มทองคำ ความสูง ๘๘.๐๕  เซนติเมตร และแท่นฐานสิงห์หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ เปียกทองคำ รวมนํ้าหนักทั้งสิ้น ๓๙ กิโลกรัม

 

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒

๑๐.เสด็จออกสีหบัญชร

ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เวลา ๑๖.๕๕  น. วันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เพื่อให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลโดยบรรยากาศภายในพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาทมีคณะกรรมการกลางอิสลาม ผู้แทนคณะพาณิชย์ ๔ คณะ และผู้แทนคณะบุคคลทางศาสนา ๔ คณะ เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ส่วนบริเวณโดยรอบของพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาทมีพสกนิกรรอเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนืองแน่นเต็มทั้งพื้นที่ พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลืองมารอเข้าเฝ้าฯ เพื่อชื่นชมพระบารมีและเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังอย่างกึกก้อง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบนายกรัฐมนตรี และต่อประชาชนที่มาเข้าเฝ้าฯ ความว่า 

“ข้าพเจ้าและพระราชินีรู้สึกยินดีและปลื้มใจมาก  ที่ได้เห็นประชาชนทั้งหลายมีไมตรีจิต พร้อมเพรียงกันมาร่วมแสดงความปรารถนาดีในวาระบรมราชาภิเษกของข้าพเจ้าครั้งนี้ ความพร้อมเพรียงของท่านทั้งหลายที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ เพื่ออวยชัยให้พรแก่ข้าพเจ้าด้วยน้ำใจไมตรีและความปรารถนาดีอย่างจริงใจนั้น เป็นที่จับตาจับใจ และทำให้ข้าพเจ้าอิ่มใจอย่างยิ่ง ขอให้ความพร้อมเพรียงของท่านทั้งหลายในการแสดงไมตรีจิตแก่ข้าพเจ้าครั้งนี้ จงเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกคนทุกฝ่ายจะพร้อมใจกันบำเพ็ญกรณียกิจเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติของเราต่อไป

ขอขอบใจคำอวยพรซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในนามของทุกคน และขอกล่าวสนองพรให้ทุกท่านมีความสุขสวัสดี และความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนาโดยทั่วกัน”

หลังจากนี้ในปลายเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ จะมีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย คือ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ไปยังวัดอรุณราชวรารามฯ

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ สร้างความปีติยินดีและปลาบปลื้มใจให้กับพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ในทุกรายละเอียดของการจัดพระราชพิธีมีความสง่างาม สมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการที่สำคัญในการ สืบสาน รักษาและต่อยอด เพื่อเป็นแนวทางที่ดีให้กับราษฎรอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เป็นดั่งหลักชัยของพสกนิกรไทยตราบนิจนิรันดร

หน้า 22-23 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,469 วันที่ 12 - 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ปีติ ๑๐ เหตุการณ์สำคัญ  สุดประทับใจในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๕๖๒