เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปพักโรงแรมที่ขึ้นชื่อว่าบริหารโดยเชนต่างชาติ คงรู้สึกว่า เช็กอิน ที่ไหนก็ดูสมัยใหม่คล้ายๆ กัน แต่มุมมองนี้จะเปลี่ยนไป เมื่อได้มาเปิดประสบการณ์วันพักผ่อนอย่างมีสไตล์ ณ “แกรนด์ เมอร์เคียว ภูเก็ต ป่าตอง รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า” แบรนด์น้องใหม่ที่บริหารโดยเครือ “แอคคอร์”
ด้วยบรรยากาศความเป็นรีสอร์ต นอกจากจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปกับความโปร่งโล่งสบายแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงเรื่องราว เรื่องเล่าของท้องถิ่น ผ่านแรงบันดาลใจในการออกแบบ ที่เป็นสไตล์ไทยร่วมสมัย ผสมผสานกับวัฒนธรรมของชาวภูเก็ต อย่างลงตัว ทั้งยังความประทับใจจากบริการของพนักงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเซอร์วิสมายด์
ทั้งโลเกชันของรีสอร์ต ซึ่งเดินออกไปราว 5 นาที ก็ถึงหน้าหาดป่าตอง ทำให้เราไม่พลาดโปรแกรมอาบแดด เล่นเจตสกี ท้าเกลียวคลื่นทะเลอันดามัน ตกดึกหน่อย นี่เลยไนต์ไลฟ์ สีสันยามค่ำคืนของป่าตอง มันใช่สุดๆ
ห้องซูพีเรีย
ซูพีเรีย สวีท
ที่นี่มีห้องพัก 314 ห้อง ใน 4 รูมไทร์ ถ้าจะให้ราคาสบายกระเป๋า ห้อง “สุพีเรียร์” กว่า 252 ห้องดูจะตอบโจทย์ ซึ่งจากห้องพักเราสามารถดื่มด่ำวิวมุมกว้างสบายตา เอนจอยกับสระน้ำใหญ่กลางรีสอร์ตที่ทอดยาวไล่ระดับ พร้อมนั่งดริ้งก์แบบชิลๆบริเวณบาร์ริมสระน้ำได้เกือบครึ่งค่อนวัน
ใครชอบโดดลงสระน้ำจากห้องพัก ให้รีเควสห้องพักแบบ “ดีลักซ์ พลูแอคเซส” แต่ถ้าอยากได้ห้อง กว้างๆ แนะนำว่าให้เลือกห้อง “สวีต”
ดีลักซ์ พลู แอคเซส
แล้วถ้าต้องการพักผ่อนแบบเอ็กซ์คลูซีฟ “ห้องพักแบบพูลวิลล่า” เป็นจุดเด่นที่ซ่อนตัว อยู่ในพื้นที่ใจกลางป่าตอง หากมาเป็นคู่ พูลวิลล่า 1 ห้องนอน น่าจะเหมาะกับการใช้เวลาอันมีค่าและน่าจดจำร่วมกัน
พูลวิลล่า 2 ห้องนอน
แล้วถ้ามาเป็นครอบครัว ต้องเป็นพูลวิลล่า 2 ห้องนอน ซึ่งทั้ง 2 ห้องนอนมีพื้นที่เท่ากันและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันทุกอย่าง ทำให้ไม่ต้องมาเลือกว่าใครจะพักห้องใหญ่หรือห้องเล็ก ซึ่งแตกต่างจากพูลวิลล่าอื่นๆ
สิทธิพิเศษสำหรับคนที่พักห้องดีลักซ์ พูล แอคเซส ห้องสวีตและพูลวิลล่า คือ การใช้บริการใน “แกรนด์ คลับ” ที่พร้อมบริการสแน็กเบเกอรี่ และเครื่องดื่มตลอดเช้ายันเย็น
อีกหนึ่งเสน่ห์ของรีสอร์ตแห่งนี้ คือ ประสบการณ์ไดนิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ คอขนมหวาน ต้องแวะไปชิมเบเกอรี่และขนมอบสไตล์ฝรั่งเศส ที่ “ชูชู เดลี่ ช็อป” ซึ่งไม่ธรรมดา เพราะเป็นการผสมผสานความหอมหวานแบบไทย และขนมพื้นเมืองของภูเก็ต ซิกเนเจอร์เมนู เอแคลร์ ดอกอัญชัน, เอแคลร์ มะม่วง, เครมบลูเล่มะพร้าว, ขนมโค ทำให้ช่วงอาฟเตอร์นูนทรีดูพิเศษไปกว่าทุกครั้ง
ขนมคู
ทั้งห้องอาหารหลักของรีสอร์ตอย่าง “บับเบิ้ลส์” ก็ยังทำให้เราได้สัมผัสฟิลลิ่งในแต่ละมื้ออาหารที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน
ไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์มื้อเช้า ซึ่งไม่เพียงมีไลน์บุฟเฟ่ต์จัดเต็มมุมอาหารนานาชาติหลากหลาย ยังมีมุมขนมไทย ที่พาเหรดมาเพียบทั้งข้าวเหนียวสังขยา ปาท่องโก๋ ขนมครก ขนมใส่ไส้ไปจนถึงมุมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีน้ำผลไม้แยกกาก อย่าง อาทิ แครอต แอปเปิล สับปะรด ให้มิกซ์แอนด์แมตช์ตามชอบ
ส่วนมื้อกลางวันไฮไลต์ ที่คุณไม่ควรพลาดคือ การลิ้มรสชาติอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของภูเก็ต บอกเลยว่าไม่ต้องเสียเวลาไปตระเวนหาร้านอร่อยทานที่ไหนเลย เพราะที่รีสอร์ต มีเมนูเด็ดพื้นถิ่นไว้บริการอยู่ในเซตเมนูที่เรียกว่า “Jewels of Phuket” ซึ่งมีทั้งหมี่หุ้นแกงปู ยำหัวปลีกุ้งสด หมูฮ้อง ปลาย่างขมิ้น ผัดผักเหลียง
ทานพร้อมข้าวกล้องและข้าวหอมมะลิร้อนๆ ที่เสิร์ฟมาในปิ่นโตดูเก๋ไก๋ ไม่น่าเชื่อว่ารสสัมผัสของอาหารแต่ละจานจะจัดจ้านและเข้มข้น จนต้องยกนิ้วให้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานอย่าง โอ้เอ๋ว น้ำแข็งไสสไตล์ภูเก็ต ชื่นใจ
สำหรับมื้อเย็น โชคดีที่เราไปพักในวันจันทร์พอดี ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มเอาใจคนรักอาหารไทยกับ “ภูเก็ต ไนต์ มาร์เก็ต” ราคา 799 บาท แต่โหอาหารเพียบ
เมนูเด็ดสุดฮิตของไทยมาหมดทั่วทุกภาค แถมหอมอบอวลไปกับซีฟู้ด ในมุมบาร์ บี คิว ปิ้งย่าง และอีกหลายเมนูที่ปรุงแบบสดๆ อาทิ ผัดไทย หมี่แกงปู มุมก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลาภูเก็ต แหมเป็นแรงดึงดูดให้เข้าไปทานจริงๆ
ทานขนาดนี้ พักสักหน่อย แล้วขอไปออกกำลังกายเบิร์นแคลอรี กับอุปกรณ์ออกกำลังกายใน "ฟิตเนส" จะไปตอนไหนก็ได้เพราะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งใครที่พาเจ้าตัวน้อยมา ที่นี่ก็มี “คิดส์คอนเนอร์” เด็กน้อยน่าจะชอบ แต่สำหรับเราการได้ปิดท้ายวันด้วยการไปผ่อนคลายกับการทำทรีตเมนต์ ณ “รินสปา” ก็ทำให้วันพักผ่อนในวีกเอนด์นี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรีแล็กซ์ได้อย่างสุดฟิน
ปักหมุดเช็คอินโดย : ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,475 วันที่ 2 - 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562