‘โอกาสมา ต้องคว้าไว้’ บิ๊กธุรกิจเอ็กซิบิชันตะวันออกกลาง
“โอกาส” และ “จังหวะ” ที่ถูกต้อง คือ ช่วงเวลาดีๆ สำหรับคนที่ต้องการสร้างสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ซึ่งหลายๆ คน จะรู้ดีว่า โอกาสและจังหวะ ไม่ได้มาหาเราบ่อยๆ เพราะฉะนั้นเมื่อ “โอกาสมา ต้องคว้าไว้” นั่นคือปรัชญาของ “อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์” หรือ “คุณโทนี่” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด และประธานสภาธุรกิจไทยในดูไบ และรัฐตอนเหนือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ได้รับโอกาสและจังหวะดีๆ จนสามารถสร้างอาชีพ สร้างธุรกิจ จนเติบใหญ่ในต่างแดน
“คุณโทนี่” เล่าว่า เขาจบวิศวะสิ่งแวดล้อม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้เข้าทำงานในสาขาที่รํ่าเรียนมาอยู่ระยะหนึ่ง แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจในช่วงต้มยำกุ้ง กำลังซื้อไม่ค่อยมี และตัวเขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยสนุกนัก กับการที่ต้องนั่งทำงานตามกรอบที่มีข้อจำกัดมากมาย โชคดีที่จับพลัดจับผลูมีโอกาสได้รับจ้างไปขายไม้กฤษณาที่โอมาน และจากจุดนั้นเองที่ทำให้เขาได้ไอเดียในการสร้างธุรกิจการจัดงานแฟร์ งานเอ็กซิบิชัน นำสินค้าไทยไปขายที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง แม้ช่วงเริ่มต้น จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว เพราะไม่ค่อยมั่นใจว่า สิ่งที่เขาทำคืออะไร
“ประเทศในตะวันออกกลางยังเปิดรับสินค้าจากต่างประเทศ เพราะเขาไม่ได้เป็นประเทศผู้ผลิต เขาพึ่งพากันใช้สินค้าจากประเทศอื่น เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสของเรา ผมไม่มีประสบการณ์ด้านงานเอ็กซิบิชันมาก่อน ผมใช้วิธีการคิดแบบตรรกะของวิศวะ ดูความน่าจะเป็น จัดบูธ มีเวที ผมอาศัยการมองงานอื่นๆ แล้วเลือกว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา อย่างเมื่อก่อนงานเอ็กซิบิชัน คนจะคิดแค่เรื่องขายสินค้า แต่เขาไม่ได้มองเรื่องการแสดง ผมมองเรื่องนี้ เพื่อดึงคนเข้ามาหมุนเวียน เราเป็นคนแรกๆ ที่ทำเวที 2 เวที เวทีแรก ด้านนอก เป็นการดึงคนเข้างาน แล้วก็มีอีกเวทีข้างใน ที่จะดึงคนให้อยู่ในงานนานๆ”
นอกจากวางรูปแบบงาน สร้างสิ่งดึงดูดคนจับจ่ายแล้ว สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้ามาร่วมงาน ก็ต้องคัดสรรสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาด พร้อมทั้งทำทริกสั้นๆ ง่ายๆ ด้วยการรีวิวสินค้าเป็นคลิปให้ผู้ประกอบการได้ดูแล้วเกิดไอเดียว่า ควรนำเสนอขายสินค้าในรูปแบบใด การบรรจุสินค้า การเจรจาต่อรองราคา ซึ่ง “โทนี่” บอกว่า ทริกเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้ผู้ประกอบการดู ไม่สามารถบอกได้ว่าผิดหรือถูก แต่นั่นคือสิ่งที่เขาได้พบมาก่อน และคิดว่าน่าจะเป็นไอเดียให้กับผู้ประกอบการทั้งหลายได้ เพราะสิ่งที่ผู้บริหารคนนี้คิดอยู่เสมอคือ Your success is our Job หากคู่ค้าประสบความสำเร็จ เขาก็จะได้รับความสำเร็จด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน “โทนี่” ไม่ใช่แค่นำสินค้าไทยไปออกงานที่ตะวันออกกลาง แต่ได้ขยายไปยังประเทศอื่นๆ ที่สนใจทำมาค้าขายกับผู้คนในแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม รวมไปถึงรัสเซีย โดยเขามีงานใหญ่ๆ ที่จัดเป็นประจำทุกปีอยู่ 5-6 งาน บางงานจัดระยะยาว 5-6 เดือน และเขายังครีเอตงานใหม่ๆ เช่น งานเพอร์ฟูม ซึ่งเขาจะจัดร่วมกับงานจิวเวลรีที่ได้รับความนิยมมากในตะวันออกกลาง
อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจของผู้บริหารคนนี้ก็คือ ธุรกิจรีเทล ที่เขาใช้งบลงทุนกว่า 700 ล้านบาท สร้าง “ไทยมาร์ท” ห้างค้าปลีก พื้นที่กว่า 6,700 ตารางเมตร ที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ของ Diyar ที่บาห์เรน ซึ่งที่นี่จะมีทั้งศูนย์แสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด ศูนย์สุขภาพ วิลล่า และอื่นๆ ซึ่งที่นี่ “โทนี่” บอกว่าเขานำประสบการณ์ทั้งหมดใส่ลงไปในโครงการ คัดสรรผู้ประกอบการ สร้างลานกิจกรรม ทำศูนย์แอนตี้เอจจิ้ง นวดแผนไทย และอื่นๆ โดยการผนึกกับพันธมิตรอีกมากมาย โดยโครงการนี้จะเปิดประมาณปลายปี 2562 นี้ และคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 5-7 ปี
“คุณโทนี่” บอกว่า การลุยสร้างธุรกิจด้วยตัวเองเมื่อกว่า 10 ปีก่อน สิ่งหนึ่งที่เขาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานคือ ความอดทน การเริ่มต้นที่ต้องลุยเองทุกอย่าง ทำเองทุกอย่าง แล้วขยาย ค่อยๆ เติบโต จากการเอาใจใส่งานทุกงานอย่างใกล้ชิด ด้วยความจริงใจ ตรงไปตรงมา ในการทำงาน เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโตพอมีกำลัง จึงเริ่มคัดสรรคนเข้ามาร่วมงาน ซึ่งทีมงานของเขามีหลากหลายชาติพอสมควร แต่ทุกคนสามารถช่วยงานเขาได้เป็นอย่างดี เพราะผู้บริหารคนนี้ ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ความเสมอภาค
“ทำธุรกิจย่อมมีอุปสรรค บางอุปสรรค ถ้าคนอื่นเป็นผมคงเลิกไปแล้ว ผมเคยเจอขนาดว่าอยู่ประเทศ
เขาไม่ได้ แต่ผมอดทน อึด...การทำธุรกิจ ความสำเร็จอยู่ที่เมื่อเราเห็นโอกาส ต้องเข้าไปลอง และเมื่อค้าขาย ก็ต้องคัดเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมทั้งมีทักษะในการเจรจา การต่อรอง”
ด้วยลูกอึดและอดทน รวมกับความกล้าที่จะตัดสินใจคว้าโอกาสไว้ในมือ ทำให้ผู้ชายคนนี้ เป็นผู้บริหารหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในวันนี้ และกำลังก้าวต่อไปในเส้นทางที่เขาประเมินแล้วว่า นี่คือ อีกหนึ่งโอกาสใหม่ ในการเป็นเจ้าของรีเทลขนาดใหญ่ ที่จะทำให้ธุรกิจในมือของเขาทั้งหมดแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,494 วันที่ 8 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2562
