5 วิธีดูแล ผิวสวยใสฉํ่าวาว แบบเทรนด์ ใหม่ GLASS SKIN

คุณสาวๆ ถ้าเรามีผิวที่เปล่งปลั่ง เรียบเนียน สดใส แลดูสุขภาพดี ก็จะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูสดใส น่าเข้าใกล้ เสริมเสน่ห์และความมั่นใจได้เลยทีเดียว “เมิร์ซ เอสเธติกส์” ในฐานะผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมนี ชวน “หมอโอ๊ค-นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล” จาก Smith Prive’ Aesthetique Clinic มาช่วยแนะนำกัน

คำว่า “ผิวสวย” ในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องผิวขาว แต่ต้องเป็นผิวที่ดูสุขภาพดี เรียบเนียน สีผิวสมํ่าเสมอ ไม่มีริ้วรอยหรือจุดด่างดำ และต้องมีความชุ่มชื้นที่พอเหมาะ โดยปีนี้ ผิวแบบ “Glass Skin” ได้รับความนิยมจากสาวๆ ทั่วโลกเป็นอย่างมากและยังเป็น New Beauty Trend ในปี 2019-2020 อีกด้วย โดยมีลักษณะผิวที่มีสุขภาพดีจนสามารถเปล่งประกาย เงาวาว เหมือนมีนํ้าใต้ผิว ซึ่งวิธีการที่จะดูแลผิวให้ดูสุขภาพดีแบบ Glass Skin ก็มีหลายวิธี ทั้งวิธีการที่เริ่มจากการดูแลจากภายในสู่ภายนอก เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างภายในของผิวเราให้แข็งแรงก่อน และวิธีที่ช่วยให้เห็นผลได้รวดเร็ว อย่างการปรึกษาคุณหมอในคลินิกเสริมความงาม 

สำหรับเทคนิคการดูแลผิวให้เป็นธรรมชาติแบบ “Glass Skin” ที่อยากแนะนำสาว ๆ มี 5 วิธี คือ

1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : จุดเริ่มต้นของการดูแลตัวเองที่ดีในทุกด้าน ก็คือการเริ่มดูแลตัวเองจากภายใน อาศัยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้เสริมสร้างกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและซึบซับแร่ธาตุและวิตามินที่มีประโยชน์จากผักผลไม้มาซ่อมแซมเซลล์ผิวของเราจากภายในให้แข็งแรง และเปล่งปลั่ง กระจ่างใส สู่ภายนอก

2.ดื่มนํ้าอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร : ร่างกายที่ขาดนํ้าก็จะมีผิวแห้งเหี่ยว  นํ้าสะอาด จึงเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับร่างกายและผิวของเรา สาวๆ จึงควรดื่มนํ้าให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพื่อลดอาการผิวแห้ง และหากดื่มนํ้าสะอาดที่มากพอ ยังช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น กระจ่างใส อิ่มนํ้า ฉํ่าวาว แลดูสุขภาพดีได้เช่นกัน

3.นอนหลับพักผ่อนวันละ 7-8 ชั่วโมง : สังเกตไหมว่า เวลาที่นอนดึก หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งสิว ความหมองคลํ้า ถุงใต้ตา จะมาเยี่ยมเยือนผิวหน้าทันที  การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนินออกมาได้ดีในตอนกลางคืน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระ แถมยังช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ ทำให้ผิวของเราแลดูสดชื่น กระจ่างใส อีกด้วย

4. ทาครีมกันแดดทุกวัน : ความร้อนแรงที่สาดมาถึงตัวเรา ยังแฝงรังสี UV มาทำร้ายผิวด้วย ทำให้ผิวหมองคลํ้า แห้งเหี่ยว ไม่เนียนนุ่มชุ่มชื้น เพื่อป้องกันการโดนทำร้ายจากรังสี UV ควรทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV สูง เพื่อปกป้องผิว โดยหากต้องทำงานที่โดนแดดบ่อยครั้ง ควรเลือกซื้อครีมกันแดดที่สามารถทาระหว่างวันได้ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.ปรึกษาคุณหมอในคลินิกเสริมความงาม : การเห็นผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น อาจต้องปรึกษาคุณหมอในคลินิกเสริมความงามร่วมด้วย ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การเลเซอร์ปรับสภาพผิว หรือ การฉีดฟิลเลอร์โมเลกุลขนาดเล็กใต้ชั้นผิวตื้น ๆ เพื่อให้ผิวมีความอิ่มนํ้า เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลอย่างชัดเจน ควรเลือกคลินิกที่เป็นสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจาก อย.ไทย และ US FDA โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิลเลอร์แท้จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีเทคนิคการฉีดแบบเฉพาะที่เรียกว่า “Hourglass Pattern” โดยจะฉีดบริเวณพวงแก้ม ซึ่งเป็นจุดตกกระทบแสงหรือเป็นจุดที่โชว์ความเป็น Glass Skin ได้มากที่สุดนั่นเอง

สาวๆ คนไหนที่อยากมีผิวสวยใส ฉํ่าวาว ไม่ตกเทรนด์ แบบ “Glass Skin” ก็อย่าลืมลองไปทำตามคำแนะนำของคุณหมอโอ๊คดู

หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,503 วันที่ 8 - 11 กันยายน พ.ศ. 2562