ในวาระที่ก้าวสู่ปีที่40“ฐานเศรษฐกิจ” ได้จัดกิจกรรมมอบรางวัล “The Best CEO Award” ขึ้นมาเป็นครั้งแรก เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับซีอีโอ ที่มีผลงานโดดเด่นแต่ละสาขา ประกอบด้วย B: Business E: e-Commerce S: Service T: Technology และรางวัลพิเศษ 1 รางวัล สำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ Young Entrepreneur โดยการคัดเลือกนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” ได้ร่วมมือกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ กำหนดเกณฑ์คัดเลือกขึ้นมา ประกอบด้วย ความเป็นผู้นำ วิสัยทัศน์ นวัตกรรม ความกล้าหาญ การทำธุรกิจแบบยั่งยืน ใช้แนวคิดแบบผู้ประกอบการ มีความเห็นอกเห็นใจและมีวิจารณญาณ
สำหรับผลการตัดสินรางวัล The Best CEO Award ประกอบด้วย นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด สาขา B:Business, นายอนุรักษ์ สรรฤทัย เจ้าของบริษัท ฮาซันอาหารทะเลตากแห้งฯ จังหวัดสตูล หรือที่รู้จักในนาม “บังฮาซัน” สาขา E: e-Commerce นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด สาขา S:Service , ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สาขาT:Technology และนายประทีป อัคคูนูร์ ผู้ร่วมก่อตั้งผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ข้าวสีนิล Laiki สาขา Young Entrepreneur
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า การทำงานของสยามพิวรรธน์ เกิดขึ้นบนแนวคิดการทำงานเพื่อผู้อื่น โดยเฉพาะกับคู่ค้าที่ทำงานร่วมกับบริษัท หรือพันธมิตรร้านค้าที่อยู่ภายในศูนย์ เพราะคู่ค้าที่อยู่กับเราต้องอยู่ได้ ขายดี และประสบความสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตร 7,000-8,000 ร้านค้า สิ่งที่บริษัททำจะต้องเอื้อและประสานการสร้างคุณค่า สมประโยชน์ร่วมกันสู่ความยั่งยืน กระจายไปให้มากที่สุด
สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้จะต้องได้รับการสนับสนุน ชี้แนะให้ความร่วมมือกับผู้ประกอบการ ที่จะทำให้การทำงานสำเร็จ ร่วมแรงร่วมใจกันในการทำงาน รวมทั้งฝ่าฟันสถานการณ์และวิกฤติต่างๆให้เป็นโอกาส นอกจากนี้ยังมีพนักงานในบริษัททุกคนที่เสริมทัพความแข็งแกร่งให้บริษัทเป็นที่ 1 ของโลกและได้รับการโหวตให้บริษัทได้เป็นศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในโลกและติดเทรนด์อันดับ 6 โกลบัลออฟฟิศ
“ในยุคนี้ไม่มีใครสามารถเก่งได้อย่างเดียว ถ้ารวมพลังกันคิดและทำ เราจะได้ผลงานที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ทุกคนจะภาคภูมิใจและได้ประโยชน์ร่วมกัน ฝากถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ การจะทำอะไรสักอย่างต้องฟังความคิดเห็นของผู้อื่น คิดร่วมกัน สร้างร่วมกัน เท่าเทียมกันกับทุกฝ่าย คือสิ่งที่เราจะเติบโตไปด้วยกัน เป็นการเติบโตที่ทรงพลัง เพราะวันนี้เราไม่แข่งขันกันเอง แต่แข่งขันกับคนทั้งโลก”
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รางวัลที่ได้รับอาจดูเป็นเหมือนรางวัลส่วนตัว แต่วันนี้จะไม่มีแกร็บประเทศไทย ถ้าไม่มีทีมงานแกร็บที่เริ่มจากคนกลุ่มหนึ่ง 25-26 คน วันนี้มีทีมงานเป็นร้อย พาร์ตเนอร์ ที่มีหลักพันคน วันนี้มีเป็นแสนคน แต่ละเดือนมีคนสมัครเป็นพาร์ตเนอร์แกร็บเดือนละหมื่นคน ร้านค้าร้านอาหารที่วันนี้มีหลักแสนราย ภาพที่เห็นของแกร็บวันนี้เปลี่ยนแปลงจาก 2 ปีที่แล้วไปเป็นอย่างมาก จากผู้ใช้บริการหลักพันหลักแสนวันนี้ยอดการใช้งานแต่ละวันอยู่ที่ครึ่งล้านจากบริษัทที่ให้บริการส่งคน มาเป็นส่งของ ส่งอาหาร วันนี้เราเปิดบริการที่ทำให้คนระดับรากหญ้าเข้าถึงธุรกรรมการเงิน
ด้านนายอนุรักษ์ สรรฤทัย เจ้าของบริษัท ฮาซันอาหารทะเลตากแห้งฯ จังหวัดสตูล หรือที่ชาวโซเชียลรู้จักในนาม “บังฮาซัน” กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากจากจุดเริ่มต้น การทำธุรกิจขายอาหารทะเลตากแห้งผ่านทางอี-คอมเมิร์ซได้เพียงไม่นานประมาณกว่า 1 ปี จากเงินเก็บเพียง 700 บาท จนปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้เฉลี่ยกว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน
“ประโยชน์ของอี-คอมเมิร์ซทำให้การขายสินค้าเติบโตรวดเร็ว อี-คอมเมิร์ซคือการเสริมทัพของการค้าขายทำให้เกิดการเติบโตขึ้นหลายเท่า เพียงไม่ถึง 1 ปี สร้างยอดขายได้หลายร้อยล้าน นอกจากไลฟ์สดขายผ่าน Facebook หลังจากที่ Facebook เปลี่ยนอัลกอริทึมใหม่ ก็ต้องมีการปรับตัวไปเป็นการไลฟ์สดขายผ่านทางช้อปปี้เพิ่มเติม ซึ่งก็สามารถทำยอดขายได้ค่อนข้างดี สิ่งที่สำคัญคือการปรับตัวให้ทันตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยน แปลงไปอย่างรวดเร็ว”
นายประทีป อัคคูนูร์ ผู้ก่อตั้ง ผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ข้าวสีนิล Laiki กล่าวว่ารู้สึกภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับมาก และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับรางวัลโดยตรงสำหรับผลงานที่สร้างขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ข้าวสีนิล Laiki มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด 2-3 เท่าทุกปีต่อเนื่อง แม้จะมีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั่วโลก
“ผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ข้าวสีนิล Laiki สามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เพราะจึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในระยะสั้น คนที่ใส่ใจสุขภาพจะให้ความสำคัญเพราะต้องการดูแลสุขภาพในระยะยาว”
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า ดีใจที่สุดกับรางวัลที่ได้รับ เนื่องจาก “ฐานเศรษฐกิจ” เป็นองค์กรสื่อที่ทุกคนต่างรู้จักและยอมรับถือว่าเป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งในชีวิต ต้องขอบคุณ“ฐานเศรษฐกิจ” และผู้ที่ร่วมโหวตอีกครั้ง
ขณะผลงานอันโดดเด่น ถือเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ไหนจะต้องเปลี่ยนแปลงที่นั่น พัฒนาองค์กรจากวิกฤติ ขึ้นสู่ระดับนานาชาติได้โดยเฉพาะการบริหารแนวใหม่ นั่นคือการใช้เทคโนโลยีมาบริหารคน
“วันนี้เราสู้กันทุกเสี้ยววินาทีเกี่ยวกับเทคโนโลยี เมื่อรับรางวัลแล้วก็ต้องทำให้ดีขึ้น และส่งต่อพลังการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ไปสู่ทุกคน อันดับแรก ที่จะเกิดคือการพัฒนากำลังคนและนวัตกรรม ปีนี้จะมีนวัตกรรมที่ใหม่มากๆ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่จะเอามาช่วยเกี่ยวกับเรื่องโควิด-19 โดยปีนี้ทุกคนจะได้เห็นเครื่องสแกนโควิด-19 ที่ทำเองในประเทศไทย
หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3554 วันที่ 5-7 มีนาคม 2563