ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอย่างยั่งยืน โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โพสต์ชี้แจงรายการปรับอาคารหอพักดีลักซ์ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อนำร่องรองรับการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019(โควิด-19) ในหน้าเฟซบุค Chatchai Mingmalairak มีรายละเอียดว่า
สวัสดีครับ ผมขออนุญาติให้ข้อมูลเรื่องรพ.สนามธรรมศาสตร์นะครับ ที่จะได้เห็นข่าวมากมายในขณะนี้ พอดีผมได้รับมอบหมายให้ดูแลเป็น ผอ.รพ.สนาม เป็นภาระงานที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ภูมิใจในภาระกิจครั้งนี้ แต่เวลากระชั้นชิดจึงมาสื่อสารช้าไปหน่อย ขออนุญาตแจ้งข้อมูลนะครับ
จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดเชื้อCOVID-19 ที่จำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อเข้ามารักษาในโรงพยาบาลจำนวนมาก และเริ่มเกินศักยภาพการรองรับของโรงพยาบาลต่างๆโดยเฉพาะโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย แต่เราทราบว่า80%ของผู้ป่วยมีอาการเพียงเล็กน้อย(mild case) มีเพียง20% ที่มีอาการมากต้องการรักษาในโรงพยาบาล แต่สภาพขณะนี้ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดอยู่ในโรงพยาบาลส่งให้ผู้ป่วยใหม่ไม่สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ ถ้าเราปล่อยอยู่ในสภาพนี้ก็จะส่งผลต่อคุณภาพการรักษาและอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากขึ้น ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาล Uhosnet 5โรง ประกอบด้วยจุฬาฯ ศิริราช รามา วชิระและธรรมศาสตร์ ร่วมกันวางแผนและตัดสินใจในการสร้างmodelรูปแบบในการดูแลรักษาผู้ป่วยCOVID-19 ให้มีศักยภาพ เป็นต้นแบบกับรพ.ในส่วนอื่น ๆ โดยธรรมศาสตร์ได้รับการพิจารณาว่ามีสถานที่ที่เหมาะสม ทีมบริหารและมหาวิทยาลัยจึงได้ร่วมกันตัดสินดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่แย่ลง
สถานที่
ใช้หอพัก DLUX ซึ่งเป็นหอพักเอเชี่ยนเกมส์เดิมความสูง 14ชั้น จำนวน308ห้อง ห้องพักมีความเหมาะสมเนื่องจากมีโซนที่สามารถแยกออกจากส่วนอื่นได้ ห้องพักมีระบบปรับอากาศที่ดี มีโซนซักล้างในห้อง พื้นที่ทางเดินโปร่งโล่ง อากาศไหลเวียนดี สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ได้มีการปรับปรุงการแยกโซนสะอาดและโซนติดเชื้อได้อย่างชัดเจน และมีระบบรองรับในการป้องกันการปนเปื้อน รวมถึงระบบบำบัดน้ำเสียได้ตามมาตรฐานโรงพยาบาล การดูแลผู้ป่วยจะมีระบบกล้องวงจรปิดสังเกตอาการ การพูดคุยผ่านระบบเทเล แต่หากต้องเข้าไปในโซนผู้ป่วยต้องต้องมีการแต่งตัวด้วยชุด PPE และการป้องกันตามมาตรฐาน มีการกำกับควบคุมทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกตึก
ผู้ป่วย
จะเป็นผู้ป่วย COVID-19 ที่มีผลทดสอบเป็นบวกและได้รับการรักษาในโรงเรียนแพทย์5แห่งดังกล่าวอย่างน้อย5-7วันแล้วพบว่ามีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการ สามารถดูแลและช่วยเหลือตัวเองได้ก็จะส่งมาที่โรงพยาบาลสนามในการดูแลต่อและสังเกตอาการจนผลตรวจการหาเชื้อเป็นลบ จากนั้นจึงจะถูกให้กลับบ้านตามขั้นตอนต่อไป
การดูแล
จะมีการดูครอบคลุมครบวงจรทั้งอาการของโรค โดยทีมแพทย์สนามและแพทย์ติดเชื้อ การดูแลด้านจิตใจโดยทีมภาควิชาจิตเวช และการดูแลด้านสังคมและครอบครัวโดยทีมสังคมสงเคราะห์ เพราะผู้ป่วยที่ต้องมาถูกกักกันเป็นเวลานานอาจมีผลต่อภาวะจิตใจ รวมทั้งปัญหาทางบ้านที่อาจกังวล ทีมดูแลก็จะมีการประสานเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาต่อเนื่องจนหายได้
บุคลากร
การจัดสรรทรัพยากรเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการจัดรูปแบบการให้บริการ โดยให้บุคลากรหลักที่สำคัญในการดูแลในโรงพยาบาลหลัก เช่น อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ รวมถึงแพทย์ใช้ทุนและแพทย์ ประจำบ้าน ดังนั้นแพทย์สนามที่จะทำงานที่โรงพยาบาลจึงเป็นบุคลากรกลุ่มรอง เช่น อาจารย์แพทย์สาขาอื่นๆ รวมถึงพยาบาลในสาขาที่ไม่ใช่อายุรกรรมหรือวิกฤต เช่น จากสาขาด้านศัลยกรรม มาร่วมดูแล ทั้งนี้เนื่องจากภาระงานในขณะนี้จะลดลงจากการงดเลื่อนผ่าตัด จำนวนผู้ป่วยปกติลดลง
สำหรับแพทย์สนามจะขอเป็นอาสาสมัครจากอาจารย์แพทย์-แพทย์ มาประจำวันละ 1-2 ท่าน โดยอาจารย์แพทย์-แพทย์จะมาประจำที่โรงพยาบาลในตอนกลางวันโดยมาราวน์ผู้ป่วยผ่านทางเทเลพูดคุยกับผู้ป่วยเวลาและหลังจากนั้นจะรับปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์หรือเทเล จากพยาบาลประจำโรงพยาบาลสนาม
เนื่องผู้ป่วยที่นี่จะเป็นmild case จึงน่าจะไม่มีอะไร active แต่หากคนไข้มีอาการเปลี่ยนแปลงเราจะส่งผู้ป่วยกลับมารักษาที่โรงพยาบาลหลักต่อไป ไม่รักษาผู้ป่วยอาการรุนแรงที่โรงพยาบาลแห่งนี้
ที่นี่จะมีพยาบาลประจำ24 ชั่วโมง การดูแลผู้ป่วยโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ
ขณะนี้ รพ.เริ่มทยอยรับผู้ป่วยที่ล้นจากรพ.ในกรุงเทพฯ มาสังเกตอาการที่รพ.ธรรมศาสตร์ และจะเริ่มส่งต่อผู้ป่วยมายัง โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เริ่มดำเนินการ รับผู้ป่วยรายงานรายแรก 9.00น. วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม2563
ผมจึงขอให้พวกเราชาวมหาลัยธรรมศาสตร์และชุมชนใกล้เคียงได้มั่นใจในระบบการบริหารความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกับรพ.และจะดูแลไม่ให้มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน
แม้งานจะหนักและดูน่ากลัวสำหรับคนทั่วไป แต่ขณะนี้มีอาจารย์แพทย์สมัครมาเป็นแพทย์สนามจำนวนมาก และทุกคนล้วนยินดีเสียสละมาร่วมกันดูแลผู้ป่วย รวมถึงพยาบาลจากห้องผ่าตัดและหอผู้ป่วยต่างๆก็มาร่วมกันด้วย จำนวนมากสิ่งนี้เป็นสิ่งสะท้อน Thammasat spirit ที่พวกเรา ชาวธรรมศาสตร์กำลังพยายามสร้างเพื่อประชาชนที่กำลังยากลำบากในการฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ